รีวิวซีรีส์ไทย 23:23 สัญญาสัญญาณ

 23:23 สัญญาสัญญาณ

รีวิวซีรีส์ 23:23 สัญญาสัญญาณ มาหลายเรื่องราวแล้ว ถ้าไม่พูดถึง “ชาคริต แย้มนาม” ในบท “ผู้กองยอดชาย” การรีวิวิวซีรีส์เรื่องนี้ก็จะไม่สมบูรณ์ ดังนั้นเราจึงไม่พลาดที่จะพูดถึง “ชาคริต” ในบทตำรวจดีเดือด กล้า บ้าบิ่น ซึ่งเป็นตำรวจน้ำดีที่สังคมต้องการ อุ่นใจได้เสมอว่าทำงานรับใช้ประชาชนได้ด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจที่จะจับตัวคนร้ายในทุก ๆ คดีมารับโทษตามกฏหมายให้ให้ได้โดยไม่เห็นแก่หน้าใครเพื่อรักษาความถูกต้องตามกฏหมาย แต่ตำรวจน้ำดีแบบนี้ก็แน่นอนว่าไม่เป็นที่พึงใจเหล่าผู้มีอิทธิพลคนทำผิดกฏหมายทั้งหลาย ซึ่งทำให้คนดูต้องลุ้นไปกับทุกฉาก ทุกตอนของซีรีส์ว่า ผู้กองยอดชาย จะนำทีมสืบสวนสอบสวนจับคนร้ายและปิดคดีได้สำเร็จหรือเปล่า

23:23 สัญญาสัญญาณ

“23:23 สัญญาสัญญาณ” เป็นซีรีส์ที่เล่าถึง “ผู้กองยอดชาย” (ชาคริต แย้มนาม) ผู้ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นตำรวจตงฉินที่สุดคนหนึ่ง ความตรงไปตรงมาทำทุกอย่างโดยไม่สนใจใครขอแค่ให้ถูกต้องตามกฎหมาย คนทำผิดและฆาตกรจะต้องได้รับโทษ เหยื่อและผู้เสียหายจะต้องได้รับความยุติธรรม ผู้กองยอดชายยังเป็นตำรวจสายฟาด พร้อมฟาดอารมณ์ใส่ผู้บังคับบัญชาอย่างไม่กลัวเกรงหากว่าสิ่งนั้นไม่ถูกต้อง แต่เขาก็เป็นที่รักของเพื่อนตำรวจด้วยกัน รวมทั้ง “ริสา” (แพนเค้ก เขมนิจ) ตำรวจน้องใหม่ไฟแรงที่มี “พี่ยอด” เป็นบุคคลต้นแบบที่ริสาทั้งรักและศรัทธาอย่างมาก ผู้กองยอดชายติดตามคดีสำคัญ ๆ คือ คดีฆาตกรรมเด็กหญิงน้อยหน่า, คดีฆาตกรรมต่อเนื่องแปดริ้ว, คดีโจรไร้เงา, คดีฆาตกรโรคจิตสระบุรี, คดีรุมโทรมโรงเรียนปัญญาทวี ทุกคดียังไม่สามารถจับตัวฆาตกรได้ วันหนึ่งริสาได้เดินไปหาผู้กองยอดชายเพื่อจะคุยด้วย แต่ผู้กองยอดชายต้องรีบไปตามสืบคดีจึงบอกให้ริสารอก่อน ริสาได้แต่หันไปมองผู้กองยอดชายที่เดินจากไปจนลับตา และตั้งแต่วันนั้นผู้กองยอดชายก็ไม่เคยกลับมาอีกเลย…

23:23 สัญญาสัญญาณ

20 ปีต่อมา “หมวดวินทร์” (นนกุล ชานน) เจ้าหน้าที่วิเคราะห์พฤติกรรมอาชญากร ซึ่งทำงานอยู่ในทีมสืบคดีดำ ซึ่งมี “สารวัตรริสา” (แพนเค้ก เขมนิจ) เป็นหัวหน้าทีม, “ดาบเฉลย” (จาตุรงษ์ พลบูรณ์) ฝ่ายประสานงาน และ “ญาณวุติ” (เชน อัฒรุต คงราศรี) เจ้าหน้าที่ฝ่ายพิสูจน์หลักฐาน ทั้งสี่คนได้ช่วยกันนำคดีที่หมดอายุความไปแล้วแต่ยังไม่สามารถจับตัวคนร้ายได้กลับมาสืบสวนสอบสวนใหม่อีกครั้ง เพราะมีการแก้กฎหมายใหม่ให้ยกเลิกการหมดอายุความของคดีอาญาซึ่งแต่เดิมมีอายุความ 20 ปี ระหว่างการทำงานนั้นหมวดวินทร์ได้พบวิทยุสื่อสารของผู้กองยอดชายในรถที่ใส่เอกสารเก่า ๆ เพื่อจะนำไปทำลาย ในเวลา 23.23 นาฬิกา ที่เครื่องมือสื่อสารนั้นมีแสงสว่างขึ้นมาพร้อมทั้งเสียงจากปลายสายที่เรียกชื่อหมวดวินทร์อย่างคุ้นเคย แนะนำตัวเองว่าชื่อผู้กองยอดชายและแจ้งให้หมวดวินทร์รู้ว่าพบศพในคคีสำคัญตามที่หมวดวินทร์ให้เบาะแสเขาไว้ หมวดวินทร์แปลกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะเขาไม่รู้จักผู้กองยอดชายและไม่รู้ว่าผู้กองยอดชายรู้จักเขาได้อย่างไร

23:23 สัญญาสัญญาณ

แต่เขาก็ไปตามสถานที่ที่ผู้กองยอดชายบอกและเขาได้พบศพที่ถูกซ่อนไว้ตั้งแต่ 20 ปีที่แล้วจริง ๆ ทำให้หมวดวินทร์กับทีมคดีดำสามารถปิดคดีนั้นได้ หลังจากนั้นหมวดวินทร์จึงพยายามสืบว่าผู้กองยอดชายคือใคร จนได้รู้ความจริงที่น่าอัศจรรย์ว่าผู้ชายยอดชายคือคนที่หายสาบสูญไปในอดีต พวกเขาติดต่อกันได้แม้ว่าจะมีช่วงเวลาห่างกันถึง 20 ปี ผู้กองยอดชายในช่วงเวลานั้นคือคนในอดีตของหมวดวินทร์ และหมวดวินทร์คือคนในอนาคตของผู้กองยอดชาย จากนั้นทั้งคู่ได้ช่วยกันสืบคดีต่าง ๆ เพื่อจะจับฆาตกรที่ยังคงลอยนวลอยู่ให้ได้ โดยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในชีวิตของพวกเขา ทำให้สามารถติดต่อกันได้ทั้ง ๆ ที่อยู่กันคนละช่วงเวลา !

23:23 สัญญาสัญญาณ

“ชาคริต แย้มนาม” ในบทของ “ผู้กองยอดชาย” จากซีรีส์ “23:23 สัญญาสัญญาณ” คาแรคเตอร์เป็นตำรวจหนุ่มมาดนิ่ง สีหน้าเคร่งเครียดตลอดเวลาเพราะงานที่เขาทำการสืบสวนหาฆาตกรแต่ละคดีเป็นงานที่เขาไม่สามารถยิ้มได้เลย และเบื้องหลังการทำงานยังถูกกดดันจากผู้บังคับบัญชาที่ไม่โปร่งใส เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว พอใจที่จะเห็นการปิดคดีแบบให้มันจบ ๆ ไป แม้ว่ามันจะไม่ถูกต้อง คนร้ายตัวจริงไม่ได้ถูกจับก็เรื่องของมัน อย่าว่าแต่สถานการณ์ที่ทำให้คาแรคเตอร์ของผู้กองยอดชายต้องเคร่งเครียดเลย

23:23 สัญญาสัญญาณ

คนดูอย่างเราดูแล้วก็เครียดตามไปกับตัวละครตัวนี้ด้วย เพราะการใช้ชีวิตอย่างที่ผู้กองยอดชายทำซึ่งถือว่าเป็นตำรวจน้ำดี เป็นตำรวจในฝันของประชาชนที่ทำให้รู้สึกได้ว่าตำรวจเป็นที่พึ่งพิงได้จริง ๆ นั้น เต็มไปด้วยความเสี่ยง ที่จะมีอันตรายเข้ามาหาตัวเอง เพราะไปขัดอำนาจมืดที่เข้ามาในฐานะผู้บังคับบัญชา ก็เครียดไปด้วยว่าการทำงานแบบตรงไปตรงมา ไม่เห็นแก่หน้าใครจะทำให้ปลอดภัยได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่ แต่ในความเครียดนั้นก็แอบลุ้นไปด้วยว่าขอให้ปลอดภัย ขอให้จับตัวคนร้ายให้ได้ ด้วยความรู้สึกต่อตัวละครแบบนี้ ก็มองย้อนที่ตัวนักแสดงอย่างชาคริตว่าเขาแสดงได้สมบทบาทสุด ๆ เราจึงอินไปกับตัวละครอย่างนี้ ชอบทุก ๆ ฉากที่มาแบบฟาด ๆ ไม่ยอมถ้าไม่ผิด ไม่ยอมถ้าไม่ถูกต้อง ให้รู้จักซะบ้างว่านายตำรวจคนนี้คือ ผู้กองยอดชาย !

23:23 สัญญาสัญญาณ

แม้ว่าในความจริงจัง มุ่งมั่นตั้งใจในการสืบคดีต่าง ๆ ของผู้กองยอดชายที่ทำให้ “23:23 สัญญาสัญญาณ” ซึ่งเป็นซีรีส์แนวสืบสวนสอบสวนจะเต็มไปด้วยสถานการณ์เครียด ๆ แต่ในความเป็นคนปากร้ายของผู้กองยอดชายก็ทำให้แอบยิ้มได้เหมือนกัน เช่นช่วงที่แอบด่าเจ้านายและเพื่อนร่วมงานแบบเนียน ๆ แอบบ่นริสาที่เป็นตำรวจใหม่ไม่ทันคน แต่ก็สอนไปด้วยว่าเป็นตำรวจที่ต้องทำงานสืบสวนสอบสวนต้องทำอย่างไร ทำให้ริสาในอีก 20 ปีต่อมา เป็นตำรวจที่สุขุมรอบคอบขึ้น รู้จักอดทน รู้จักอดกลั้นที่จะไม่แสดงอารมณ์ที่แท้จริงออกมาให้ใครจับได้ว่าคิดอะไรอยู่ และรู้จักถอยในจังหวะที่ไม่สามารถทำอะไรได้

23:23 สัญญาสัญญาณ

เพื่อที่จะหาทางออกทางอื่นให้การทำงานสำเร็จลุล่วงตามเป้าหมายที่วางไว้ ในความเป็นผู้กองยอดชายที่มักจะไม่แสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกมา แต่เราสามารถสัมผัสได้ถึงสิ่งที่เขาคิดและอารมณ์ในด้านอ่อนไหวผ่านช่วงเวลาที่เขาได้สื่อสารกับหมวดวินทร์ ซึ่งถึงแม้ว่าจะอยู่กันคนละช่วงเวลาที่ห่างกันถึง 20 ปี แต่เคมีความเป็นตำรวจคู่หูที่ต้องทำงานร่วมกันของทั้งสองคนก็เข้ากันได้ดีมาก ๆ ทำให้สามารถติดตามชมซีรีส์ได้อย่างลุ้นไปกับทุก ๆ คดีได้อย่างสนุก ซึ่งแน่นอนว่าเพราะนี่คือการแสดงของนักแสดงฝีมือยอดเยี่ยมอย่าง “ชาคริต แย้มนาม” นี่เอง 🙂

ตัวอย่าง 23:23 สัญญาสัญญาณ