เมื่อ เจ้าชายรูปงาม โดนต้องคำสาปให้กลายเป็นอสูรรูปร่างสุดแสนอัปลักษณ์ ซึ่งหนทางเดียวที่จะสามารถทลายคำสาปนี้ได้ เขาต้องตามหารักแท้ให้ได้ก่อนกลีบดอกกุหลาบสุดท้ายจะร่วงหล่น ในวันหนึ่งเขาได้พบกับหญิงสาวผู้ที่ต้องใช้ชีวิตร่วมกันกับเขา เพื่อแลกกับชีวิตของพ่อเธอให้หลุดพ้นจากการคุมขังในปราสาทแห่งนี้ เรื่องราวของทั้งสองจะลงเอยเช่นไร แล้วเจ้าชายอสูรอัปลักษณ์จะสามารถถอนคำสาปและกลับมาเป็นมนุษย์ได้เหมือนเดิมหรือไม่ ติดตามกันได้ในเรื่องเลยครับ


มันคือเรื่องราวความรักของมนุษย์สาวชนชั้นธรรมดา กับอสูรหน้าตาน่าเกลียดน่ากลัวที่เป็นเจ้าชายในปราสาทใหญ่ หนังที่เคยเป็นการ์ตูน แต่วันนี้กลายมาเป็นหนังคนแสดงเมื่อเจ้าชายต้องคำสาปจากหญิงชราให้กลายเป็นอสูรมีเขามีขนรุงรัง เพียงสิ่งเดียวที่จะลบล้างมันได้คือการได้รับรักแท้จากหญิงสาวสักคนก่อนที่กลีบกุหลาบใบสุดท้ายจะหลุดร่วงจากดอกกุหลาบพล็อตที่ไม่มีอะไรแตกต่างจากเดิมมากนัก Emma Watson เล่นเป็น เบลล์ หญิงธรรมดาบ้าหนังสือที่กลายเป็นเจ้าหญิง เธอได้พบกับ เดอะบีสต์ (Dan Stevens) อสูร ที่รูปกายชั่วร้ายที่เธอมองเห็นความงดงามภายใน ขณะที่ตัวร้ายกลับกลายเป็นคนที่เคยเป็นพระเอก Luke Evans เขาแสดงเป็นแกสต็องชายชาติทหารที่หวังและหมายปองเบลล์มานาน จนวันที่ธาตุแท้ของเขาเริ่มแสดงออก


ปี 1991 เป็นช่วงเวลาที่ใครหลายคนจดจำ เพราะพวกเธอได้พบกับการ์ตูนแอนิเมชั่นเจ้าหญิงดิสนีย์ที่กลายเป็นตำนาน มีเพลงประกอบที่สุดดังที่อยู่ในความทรงจำของคนรักดิสนีย์มาจนปัจจุบัน เมื่อวันหนึ่งดิสนีย์เริ่มจับการ์ตูนเหล่านั้นมาทำเป็นหนังคนแสดง ทุกสายตาก็จับจ้องและรอเวลาจะได้พบของจริง ‘Beauty and the Beast’ คืออีกเรื่องที่ถูกนำมาทำใหม่และฉายในวันนี้ความสุขของการดูหนังที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าหญิงดิสนีย์ก็คือ ความรักของเธอกับเจ้าชายที่สุดท้ายก็มักจะลงเอยกันโดยจำต้องผ่านอุปสรรคบางอย่างไปก่อน หนังให้คติความคิดบางอย่างที่ออกจะเป็นการมองโลกในแง่ดี และเป็นประเด็นง่ายๆ ที่เด็กจะหยิบจับต้องได้ และโดยเฉพาะผู้ชมที่เป็นฝ่ายหญิงแม้จะไม่ถึงขั้นแฟนพันธุ์แท้หนังเจ้าหญิงดิสนีย์ แต่ก็พอเห็นอยู่บ้างว่า หนังมีการหยิบเอามุมมองของฉากต่างๆ ที่ผู้คนจดจำของเวอร์ชั่นแอนิเมชั่นมาสร้างใหม่ในแบบคนแสดงแทบจะไม่ต้องเล่าเรื่องราวอะไรเลยก็ได้ เพราะมันแทบจะไม่แตกต่างกันเลย มีความแฟนเซอร์วิสค่อนข้างจริงจัง


สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนในเวอร์ชั่นนี้ก็คือการเนรมิตฉากของปราสาทกันโอ่โถงอลังการ สวยงามตรึงตา แม้เรื่องราวมันจะดำเนินไปในแบบแฟนตาซีเพ้อฝันอยู่ก็ตาม จุดเด่นของ ‘โฉมงามกับเจ้าชายอสูร’ ก็คือทั้งเนียนตาด้านซีจี ทั้งยังเล่นกับระบบ 3 มิติได้พอคุ้มด้วยการขว้างปาสิ่งต่างๆ เข้าตาคนดูเป็นว่าเล่น ยิ่งเมื่อรับชมด้วยระบบ IMAX ด้วยเสียงที่คมชัด ยิ่งทำให้ได้ยินเสียงใสๆ ของ Emma Watson ได้เต็มหูยิ่งขึ้นมีฉากหนึ่งที่ไม่น่าเชื่อว่าหนังชวนฝันชวนเคลิบเคลิ้มสไตล์เจ้าหญิงดิสนีย์จะชักชวนให้อินจนน้ำตาซึมได้ …แต่มันก็เกิดขึ้นไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ผมก็ยังเชื่อว่าหนังเรื่องนี้จะเหมาะกับคนที่ชื่นชอบเวอร์ชั่นการ์ตูนอยู่เป็นทุน ซึ่งก็น่าจะกลุ่มที่ชอบนิยายเจ้าหญิงฉบับดิสนีย์กันอยู่แล้ว ไม่ก็อาจจะแฟนคลับของเอมม่า วัตสัน ที่ตามมาดูโดยไม่ได้คาดหวังอะไรนัก แต่อาจจะได้ความเกินคาดกลับไป
ชื่อภาพยนตร์: Beauty and the Beast / โฉมงามกับเจ้าชายอสูร
ผู้กำกับภาพยนตร์: Bill Condon
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Stephen Chbosky (screenplay), Evan Spiliotopoulos (screenplay)
นักแสดงนำ: Dan Stevens (แดน สตีเว่นส์) เป็น เจ้าชายอสูร, Emma Watson (เอมม่า วัตสัน) รับบทเป็น Belle และ Luke Evans (ลุค อีแวนส์) รับบทเป็น แก๊สตอง
แนว/ประเภท: Family, Fantasy, Musical, Romance
ความยาว: 129 นาที
วันเข้าฉายในประเทศไทย: 16 มีนาคม 2017