รีวิวหนัง Blue Beetle บลู บีเทิล

Blue Beetle บลู บีเทิล

เรื่องย่อหนัง Blue Beetle

“Blue Beetle บลู บีเทิล” เป็นเรื่องราของ ไฮเม่ เรเยส บัณฑิตจบใหม่ เขาเดินทางกลับมาหาครอบครัว ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจเพื่ออนาคตของตัวเอง แต่กลับพบว่าครอบครัวของเขากำลังตกอยู่ในวิกฤต แต่แล้วโชคชะตาก็ได้นำพาให้เขาพบกับเศษซากโบราณของเทคโนโลยีชีวภาพจากต่างดาวชื่อว่า สคารับ ทันใดนั้น สคารับ ก็เข้าอาศัยอยู่ในร่างของ ไฮเม่ เรเยส โดยมอบชุดเกราะอันน่าทึ่งที่มาพร้อมกับพลังวิเศษที่ไม่อาจคาดเดาได้ นับตั้งแต่นั้นโชคชะตาของ ไฮเม่ เรเยส ก็เปลี่ยนไปตลอดกาลเมื่อเขาได้กลายเป็นซูเปอร์ฮีโร่ชื่อว่า บลู บีเทิล

ซูเปอร์ฮีโร่ผู้เพิ่มพลังของตนเองผ่านความรักความห่วงใยที่มีให้ครับครัว เผยตัวตนและคาแรคเตอร์ของ ไฮเม่ เรเยส ออกมาตั้งแต่เริ่มต้น เมื่อเขานั้นรัก และอยากแบ่งเบาภาระของครอบครัวที่กำลังตกอยู่ในที่นั่งลำบาก ซึ่งครอบครัวของเขามีคติในการสู้กับปัญหาตรงหน้า เพราะเราคือนักสู้ เขาจับพลัดจับผลูเข้ามาทำงานให้กับ วิคตอเรีย คอร์ด ก่อนจะได้รู้จักกับ เจนนี่ คอร์ด ในช่วงต้นของเรื่องมีการเสริมสีสันความเฮฮา ดราม่าของครอบครัวเรเยสเข้ามาได้เป็นอย่างดี โดยมี มิลาโกร น้องสาวของเขาเป็นตัวละครที่คอยตบมุกโบ๊ะบ๊ะอยู่เสมอ

แต่โชคชะตากลับพาให้เขาได้ก้าวเข้ามาในจุดที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ด้วยการช่วยเหลือ เจนนี่ คอร์ด เธอมีเจตนารมณ์เดียวกับพ่อของเธอ ทำให้มีมุมมองในการดูแลบริษัทต่างกับ วิคตอเรีย และเป็นชนวนต้นเหตุของการเผชิญหน้ากันในครั้งนี้ ซึ่ง ไฮเม่ ได้เป็นผู้ที่ถูกเลือกและรับพลัง พร้อมชุดเกราะจาก สคารับ เศษซากโบราณของเทคโนโลยีชีวภาพจากต่างดาว ทำให้เขาถูกไล่ล่าจากฝั่งวายร้ายในทันทีทันใด

รีวิวหนัง Blue Beetle

สำหรับเนื้อหา ตัวบทเรามีความรู้สึกว่าค่อนข้างจะเดาทางได้ไม่ยากเท่าไรนัก ด้วยชั้นเชิงในการเล่าที่ค่อนข้างจับต้องได้ในหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่เคยผ่านมาพอสมควร ไม่ว่าจะเป็น การได้รับพลังโดยบังเอิญ, การเป็นผู้ถูกเลือก, ไม่เข้าใจในพลังของตนเองในช่วงแรก, ถือคติไม่ฆ่าผู้ร้าย, การปรับตัวเข้ากับพลัง มันเป็นช่วงเนื้อหาที่สามารถมองภาพออกและพบได้อยู่บ่อย ๆ

อีกทั้งการเล่าแต่ละจุดเป็นส่วนต่อขยายของฉากเพิ่มเข้ามาพอสมควร จึงรู้สึกถึงความไม่กระชับในการดำเนินเรื่องราว แต่หนึ่งสิ่งที่ต้องขอชื่นชม คือการชูแก่นหลักของครอบครัวเข้ามาเป็นระยะ ๆ เห็นการพัฒนาทางด้านความคิด การใช้ชีวิตได้เป็นอย่างดี และมีการเติมข้อคิดในการสู้กับปัญหาที่เข้ามาไม่ว่ามากเท่าไรก็จะผ่านไปได้ เพราะเราคือนักสู้

แต่ไม่ใช่เพียงว่าจะเน้นไปที่การชูเรื่องครอบครัวไปเสียทีเดียว หนังยังมีการสลับไปกับความเข้มข้น ที่มาที่ไปในพลังของ สคารับ และการรับมือกับตัวร้ายอย่าง วิคตอเรีย ร่วมกับ ราคาแพ็กซ์ ซึ่งมีฉากการต่อสู้ออกมาให้เราได้สัมผัสความดุเดือดในพลังอยู่เป็นช่วง ๆ ช่วงแรกอาจจะไม่มากนัก ทำให้เราแอบขัดใจเล็ก ๆ แต่ก็ต้องเรียนรู้พลังกันไป แต่ช่วงท้ายมีให้เราสัมผัสความแอ็คชัน ไซไฟที่ชูได้โดดเด่นไม่แพ้กัน ซึ่งการเล่าเนื้อหาสลับไประหว่างครอบครัว และบีเทิล นั้นทำได้ค่อนข้างดี อาจจะไม่ได้กระชับมากนัก แต่ก็เรียงร้อยอารมณ์ให้เราได้มีความรู้สึกตามไป

ด้วยการเป็นซูเปอร์ฮีโร่คนแรกที่มีเชื้อสายลาติน ทำให้มูดแอนด์โทนของทั้งเรื่องมันมีความสอดคล้องกันทั้งหมด ทั้งที่อยู่อาศัย การคัดเลือกนักแสดง ดนตรีประกอบ ครบเครื่องมากเลยทีเดียว ฝั่งของการแสดงต้องขอชื่นชมครอบครัวเรเยส ด้วยการกลับมาของไฮเม่ ทำให้ครอบครัวมีสีสัน และคาแรคเตอร์ของแต่ละคนในครอบครัวเรียกได้ว่าต้องมีฮากันรัว ๆ อาทิ ไฮเม่ หนุ่มคมเข้มผู้รักครอบครัวยิ่งกว่าชีวิต และพร้อมปกป้องเสมอ มิลาโกร น้องสาวแสนซน เธอเป็นผู้ตบมุก และยังเป็นคนขี้สงสัยจนทำให้พี่ชายเป็นเช่นนี้

ซึ่งคาแรคเตอร์ของตัวละครเป็นจุดชูเรื่องให้มีความหนักเบา ความเศร้า ความรักได้อย่างมีอรรถรส หากขาดครอบครัวเรเยสอาจจะไม่ได้กลายมาเป็นซูเปอร์ฮีโร่ก็ได้ เจนนี่ คอร์ด เอง เธอนั้นมีปูมหลังเกี่ยวกับครอบครัวเช่นเดียวกัน และเป็นความลึกลับที่ยังไม่มีคำตอบ ด้วยการแสดงผ่านสีหน้า แววตา ท่าทางของเหล่านักแสดงนำคือเพลินไปกับเรื่องราวการเล่าเนื้อหาแบบไต่ระดับอารมณ์ไปเรื่อย ๆ ได้เป็นอย่างดี โดยมีการแฝงอารมณ์หลักคือความรักครอบครัวจนก่อเกิดเป็นพลังอันยิ่งใหญ่

ต้วอย่างหนัง Blue Beetle

ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง: Blue Beetle

  • ประเภท: แอคชั่น / ผจญภัย / ไซไฟ
  • ผู้กำกับ: อังเคล มานูแอล โซโต
  • นำแสดงโดย: โซโล มารีฮวนนา, ซูซาน ซาแรนดอน, เบ็กกี้ จี
  • ความยาว: 127 นาที
  • กำหนดฉายในไทย: 17 สิงหาคม 2023