รีวิวซีรีย์ Beyond Evil ปมปีศาจ

สืบเนื่องมาจากการสนทนาในวันหนึ่งกับท่านผู้อ่านถึงงานซีรีส์เกาหลีที่เข้าชิงรางวัล แพ็คซัง อาร์ตส์อวอร์ดส์ (2021) ซึ่งเป็นรางวัลประกาศความยอดเยี่ยมของวงการบันเทิงบ้านเขา ซึ่งในการสนทนานั้นมีคำถามที่ว่าผู้เขียนเองชื่นชอบ  เชียร์  และคาดว่าเรื่องไหนจะคว้ามงกุฎทองฝังเพชรไปครอง  แต่ตอนนั้นเองผู้เขียนกลับให้คำตอบไม่ได้  เพราะ ณ วันนั้น  ห้าอรหันต์ทองคำผู้เข้าชิงมงผ่านตาผู้เขียนไปเพียงสามเรื่อง  หนึ่งคือ It’s Okay To Not Be Okay อีกหนึ่งคือ Flower Of Evil ซึ่งเป็นการได้ชมก่อนที่จะรู้ผลการประกาศรายชื่อผู้เข้าชิงในตอนนั้น รีวิว Beyond Evil ปมปีศาจ สำหรับเนื้อหาของ Beyond Evil นั้น หลัก ๆ จะอยู่ที่การหาตัวอาชญากรใจเหี้ยม ผู้สร้างความหวาดหวั่นให้กับประชาชนชาวเกาหลีใต้ และแน่นอนว่าผู้ที่หวาดวิตกกว่าใคร ๆ คงหนีไม่พ้นผู้คนในเมืองมันยาง ซึ่งตัวคดีจะแบ่งออกเป็นคดีฆาตกรรมต่อเนื่องในปัจจุบัน และคดีคนหายในอดีตที่เหยื่อคือ อียูยอน น้องสาวของ อีดงชิก ซึ่งรูปคดีโหดเหล่านี้ถูกก่อขึ้นอย่างแนบเนียน แทบจะไร้เบาะแสที่จะยึดโยงไปหาคนร้าย แม้แต่ร่างของเหยื่อยังหายไปอย่างไร้ร่องรอย เหลือเพียงนิ้วสิบนิ้วที่ถูกตัดและจัดวางไว้อย่างน่าสะพรึงกลัว แต่ไม่เพียงแต่เท่านั้น เพราะนอกจากการตามล่าหาตัวฆาตกร ที่พบเห็นได้ตามซีรีส์สืบสวนส่วนใหญ่แล้ว Beyond Evil ยังสะท้อนและวิพากษ์วิจารณ์การใช้อำนาจในระบบราชการของตำรวจอย่างชัดเจน ทั้งการสืบสวนแบบจับผิดบ้างจับถูกบ้าง การรีบสรุปรูปคดี การล่อซื้อที่ทำให้เหยื่อถึงแก่ความตาย อีกทั้งตลอดทั้งเรื่องจะเห็นได้ว่าตัวละครที่เป็นตำรวจแทบจะทุกตัวในเรื่องนี้ต่างทำผิดกฎหมายไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ผ่านการใช้ช่องว่างของกฎและอำนาจที่มีอยู่ในมือเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ แถมในเรื่องยังชี้ว่าผู้ต้องสงสัยก็วนเวียนอยู่ในแวดวงตำรวจเสียเอง แล้วแบบนี้จะเป็นอย่างไรหากผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ กลับไม่ได้พิทักษ์ความสันติอย่างที่ว่ากัน? อีกทั้งตัวซีรีส์ยังสะท้อนถึงการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบของนักการเมืองท้องถิ่น และกลุ่มนายทุนผู้มีอำนาจ ที่น่าหวาดกลัวไม่ต่างจากคนร้ายอ่านต่อ

รีวิว ซีรีย์วุ่นๆของวัยรุ่นต่างดาว สมรภูมิหลังเลิกเรียน Duty After School (2023)

ซีรีส์เรื่อง Duty After School เป็นซีรีส์สัญชาติเกาหลี จากค่าย TVING โดยซีรีส์เรื่อง Duty After School สร้างมาจากเว็บตูนเรื่องฮิตของเกาหลี ซีรีส์เรื่อง Duty After School เป็นซีรีส์แนวเซอร์ไวเวอร์ แอ็กชัน ดราม่า ระทึกขวัญ  มีทั้งหมด 2 พาร์ท มีทั้งหมดด้วยกัน  10 EP  โดยพาร์ท  1  มี 6 EP   คือ EP ที่ 1-6 EP แรกออกฉายไปวันที่  31 มีนาคม 256 ส่วนพาร์ท 2  มี 3 EP คือ EP ที่ 7-10  โดยอ่านต่อ

รีวิวซีรีย์ ตุลาการกระหายแค้น พนันบ้าคุกนรก Insider (2022)

สวัสดีครัช วันนี้จะมารีวิวซีรีส์แนวอาชญากรรมกฎหมายระทึกขวัญ ที่เป็นซีรีส์ฝั่งเกาหลี เล่าเรื่องราวอัยการ/ตุลาการฝึกหัดที่รับภารกิจบางอย่างจนถูกหักหลังและกลายเป็นนักโทษ เพื่อความจริงเขาจึงลุกขึ้นสู้และแก้แค้น แล้วเรื่องสนุกมัน มีนักแสดงนำอย่าง คังฮานึล และ อียูยอง และอีกหลายท่าน เนื้อเรื่องจะสนุกและน่าดูยังไงไปอ่านเรื่องย่อและรีวิวกัน เรื่องย่อ อัยการหนุ่มฝึกหัด “คิม โยฮัน (รับบทโดย คัง ฮานึล)” ชายหนุ่มที่มีความแค้นเกี่ยวกับพ่อและภารกิจลับที่จำเป็นต้องสืบหาคนใหญ่คนโตโดยการเข้าไปสืบเรื่องราวภายในคุกซึ่งมีหัวหน้าภารกิจคือ “มอก จินฮยอง (รับบทโดยคิม ชางโฮ) สถานที่คุกขึ้นชื่อเรื่องอำนาจและความโหดแต่คุกนี้ไม่ธรรมดาตรงที่ว่า “อำนาจจะใหญ่ได้ต้องมีเงินมากพอ” ทำให้โยฮันต้องเป็นนักพนันภายในคุกเพื่อเอาเงินคุมอำนาจคนในคุกและได้ความช่วยเหลือจาก “จาง ซอนโอ (รับบทโดยคัง ยองซอก)” เป็นคนสอนโยฮันเล่นพนันและไต่เต้าขึ้นสู่อำนาจสูงเพื่อแก้แค้น “ยุนบยองอุก (รับบทโดยฮอ ซุงแท)” และคนอื่นๆที่ทำให้ชีวิตโยฮันต้องพัง โดยได้รับความช่วยเหลือนอกคุกจากหญิงสาวธุรกิจ “โอ ซูยอน (รับบทโดยลี ยูยอง)” ที่อาจแฝงด้วยความลับอะไรบางอย่าง รีวิว ตุลาการกระหายแค้น พนันบ้าคุกนรก Insider (2022) แสงสีและบรรยากาศสุดตึงเครียด Insider (2022) เป็นซีรีส์แนวแอคชั่นสืบสวน บรรยากาศของภายในซีรีส์จะออกแนวโทนเข้มมืดที่ทำให้รู้สึกว่าหนังมีความจริงจังจึงทำให้คนดูรู้สึกอินและลุ้นกับตัวละคร บางฉากที่มีการต่อสู้ก็ทำให้เกิดความสมจริงด้วยบาดแผลและเลือดที่ทำให้รู้สึกเจ็บทรมาณแทนเพราะฉาก “โจแฮโด (รับบทโดยฮัน แจยอง)” รีดเลือดโยฮัน ทางเรารู้สึกเสียวกระพุ้งแก้มเลย แถมผู้กำกับยังใส่ลูกเล่นความสมจริงด้วยโปรดักชั่นที่ยิ่งใหญ่ทั้งสถานที่ที่หรูหราและโปรดักชั่นคุกที่ยิ่งใหญ่ อำนาจเงินยิ่งใหญ่จนยากที่จะล้ม ภายในเรื่อง Insider (2022) ไม่ว่าจะเป็นภายในคุกหรือภายนอกคุกสิ่งที่มีค่ามากที่สุดคือ “เงิน” ในเรื่องจึงมีการที่ใช้เงินเกี่ยวข้องกับอำนาจเยอะมาก สามารถสั่งบังคับหรือสั่งการอะไรบางอย่างเพื่อภารกิจของตัวเองได้เพราะในเรื่องทุกตัวละครยกย่องเงินแทบจะเหมือนพระเจ้า กระหายอำนาจและทรัพย์สินอ่านต่อ

รีวิวหนัง "Assassin Club"

แน่นอนว่าหนังบู๊ไม่น่าจะมีวันตายไปจากแวดวงหนังได้ง่าย ๆ เพราะมันยังมีกิมมิกอะไรมากมายที่ดั้นด้นให้แตกหน่อออกผลผลิตใหม่ ๆ มาสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ชมได้เรื่อย ๆ แต่ก็ไม่ใช่ว่าวัตถุดิบที่ประสบความสำเร็จได้ดีอยู่แล้ว จะถูกหยิบนำมาปรุงแต่งใหม่เป็นหนังเรื่องใหม่ได้เวิร์กเสมอไป ก็เหมือนกับ “Assassin Club” หนังแอคชั่นนักฆ่าที่น่าจะอยากเจริญรอยตามความสำเร็จของเฟรนไชส์ John Wick จึงได้กล้าคิดที่จะออกมาประชัน รีวิว”Assassin Club” Assassin Club เป็นเรื่องราวของ มอร์แกน อดีตทหารหนุ่มที่กลายมาเป็นนักฆ่าอาชีพ โดยเขาได้รับมอบหมายให้ทำงานสุดท้ายก่อนจะถอนตัวออกจากวงการนี้ ซึ่งต้องไปจัดการเด็ดหัวนักฆ่าทั้ง 7 คนที่กระจายอยู่พื้นที่ต่าง ๆ ทั่วโลก แต่ระหว่างปฏิบัติการดูเหมือนเขาเองก็กลายเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่ถูกสั่งเก็บด้วย ทำให้เขาต้องเร่งสืบหาเบื้องหลังความจริงและจัดการผู้ที่บงการเรื่องนี้ก่อนมันจะสายเกินแก้ นี่คือผลงานล่าสุดของผู้กำกับชาวฝรั่งเศส “กามีย์ เดลามาร์เร” ที่เคยแจ้งเกิดมาจากหนัง Brick Mansions และทำภาคต่อให้ The Transporter Refueled เมื่อหลายปีก่อน แน่นอนว่าเขายังคงเอาดีด้านการทำหนังแอคชั่นแนวทริลเลอร์ระทึกขวัญตามสไตล์ของเขา แม้ว่าผลงานชิ้นที่ผ่านมา ๆ ในเครดิตของเขาจะไม่ค่อยน่าอภิรมย์ในหมู่นักวิจารณ์สักเท่าไหร่ แต่เขาก็ยังไม่หมดแพสชั่นที่จะทำหนังแนวนี้ต่อไป เช่นเดียวกันใน Assassin Club ก็ยังเข้าข่ายเป็นหนังบู๊สูตรเดิม ๆ ของผู้กำกับรายนี้ ที่เราจะสัมผัสได้ถึงลายเซ็นของเขาเป็นอย่างดีอ่านต่อ

รีวิวซีรีย์ Doctor Prisoner คุกคลั่งแค้น

ถ้าใครติดตามซีรีส์เกาหลีอย่างใกล้ชิด จะพบว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ละครในช่องหลักไม่สามารถบรรลุความนิยมเฟื่องฟูได้เหมือนสมัยก่อน คือเรตติ้งค่อนข้างตกต่ำมาก แต่สำหรับ Doctor Prisoner นั้น ถือเป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่องของช่องหลักที่ประสบความสำเร็จ สามารถเชิดหน้าชูตาให้กับช่อง KBS โดยทำเรตติ้งได้อย่างโดดเด่น เปิดตัวที่ 8.4% และลาจอด้วยเรตติ้งสูงถึง 15.8% แสดงว่าต้องมีดีให้หยิบมาชมอย่างแน่นอน ด้วยความเรียบง่ายของชื่อเรื่อง Doctor Prisoner ที่สื่อตรงๆก็คือ นักโทษที่เป็นหมอ หรือ หมอ+นักโทษ แต่ซ่อนนัยให้ชวนคิดต่อเองจากเรื่องย่อที่วางไว้ว่า หมอถูกกล่าวโทษจนต้องติดคุกจึงอยากแก้แค้น มันคงจะแซ่บกว่าชื่อแน่ เพราะเป็นแผนแก้แค้นที่สุดเฉียบคม จากทั้งระดับสมองอันชาญฉลาด ความรู้ทางด้านการแพทย์ที่เปรียบเหมือนอาวุธเฉพาะทาง ผสมเข้ากับ ความร้ายเข้มโหมดคนคุก เรื่องย่อ นาอีเจ (นัมกุงมิน) นายแพทย์มือฉมังแห่งโรงพยาบาลแทกังผู้มีจิตใจดีชอบช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ผู้ยากไร้  วันหนึ่งเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินที่เขาไม่อาจช่วยเหลือคนไข้ไว้ได้และการช่วยชีวิตนั้นถูกขัดขวางโดยอิทธิพลของเจ้าของโรงพยาบาล  เคราะห์ซ้ำกรรมซัดเมื่อเขาต้องเซ็นรับรองคำวินิจฉัยปลอมเพื่อแลกกับการผ่าตัดรักษาแม่ของตัวเอง  แต่ความเป็นคนหัวแข็งไม่ยอมก้มหัวให้กับอำนาจเงินของเขากลายเป็นชนวนให้ถูกกลั่นแกล้งจนต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำ  และถึงที่สุดแม่ของเขาก็ไม่ได้รับการผ่าตัดจนเสียชีวิตในเวลาต่อมา สามปีให้หลังการช่วยเหลือของหมอนาอีเจให้นักโทษได้งดเว้นการคุมขังแล้วออกมารักษาข้างนอก  ด้วยการสร้างอาการป่วยปลอมๆทำให้หมอนาอีเจได้กลับไปอยู่ในคุกอีกครั้งแต่คราวนี้มาในฐานะผู้อำนวยการทางการแพทย์ของเรือนจำ  แต่เมื่อเสือตัวใหม่เข้าถ้ำมาเสือเจ้าที่ที่อยู่มาก่อนหน้าอย่าง ผอ.ซอนมินซิก (คิมบยองชุล) มีหรือจะยอมสูญเสียตำแหน่งราชาง่ายๆ  แต่การเข้ามาของหมอนาอีเจกลับไม่ใช่แค่มาเพื่อทำงานตามปกติแต่เขามีเหตุผลบางประการที่เข้ามา ซึ่งก็คือความแค้น และการมาครั้งนี้หมอนาอีเจไม่ใช่คุณหมอที่มีรอยยิ้มอย่างเป็นมิตรและจิตใจดีเช่นเดิม  รอยยิ้มของเขาเปลี่ยนไป  แววตาที่อ่อนโยนของเขาหายไป  คราวนี้คล้ายกับว่าหมอนาอีเจได้ขายวิญญาณให้กับปีศาจที่ร้ายกาจกว่าปีศาจที่เขาต้องกำราบแล้วหรือไม่  ตัวแปรเดียวที่จะให้วัตถุประสงค์ของหมอนาอีเจบรรลุขึ้นอยู่กับจิตแพทย์สาวที่เข้ามาให้คำปรึกษานักโทษด้วยเหตุผลที่ซ่อนไว้เช่นกันคือหมอ ฮันโซกึม (ควอนนารา) ที่จะเป็นตัวสนับสนุนหรือตัวขัดขวางก็ไม่อาจทราบได้ ข้อมูลเกี่ยวกับซีรีย์ Doctor Prisoner คุกคลั่งแค้น ประเภท อ่านต่อ

รีวิวซีรี่ย์ VAGABOND เจาะแผนลับเครือข่ายนรก

สวัสดีทุกคน…ช่วงนี้ก็ใกล้วันหยุดเต็มที เชื่อว่าหลายคนมีแผนไปเที่ยว และก็เชื่อว่าหลายคนเตรียมนอนพักผ่อนที่บ้าน หาซีรี่ย์ดูในช่วงวันหยุด แน่นอนแหล่งหาซีรี่ย์มาดูเกือบ100%ทุกคนต้องมีไว้ดูซีรี่ย์คือ ‘Netflix’ วันนี้เราจะมาแนะนำ1ซีรี่ย์เป็น ‘Original Netflix’ ที่ทุ่มทุนสร้างกว่า656ล้านบาท บอกเลยเรื่องนี้คุณภาพเทียบเท่า Hollywood ‘VAGABOND’ หรือในชื่อไทยว่า’เจาะแผนลับ เครือข่ายนรก’ ซีรี่ย์ทุ่มทุนสร้างจากเกาหลี กว่า 2 แสน 5 หมื่นล้านวอนหรือ 656 ล้านบาท กำกับโดย’ยูอินชิก’ ฉายพร้อมกันทั่วโลกใน’Netflix’และทางช่อง ‘SBS’ ของเกาหลี ในวันและเวลาเดียวกัน (จำนวน16ตอนใน’Netflix’ 32 ตอนในช่อง’SBS’) นำแสดงโดย “อีซึงกิ, แบซูจี” เสิรมทัพนักแสดงด้วย “ชินซองรก, มูนจองฮี, ฮวังโบรา, เบคยูนชิค, จองมันชิก, จางฮยอกจิน” และนักแสดงมากฝีมืออีกมากมาย รีวิว VAGABOND : เจาะแผนลับ เครือข่ายนรก ว่าด้วยเรื่องของสตั๊นแมนหนุ่ม’ชาดัลกอน'(รับบทโดย’อีซึงกิ’) ที่มีความใฝ่ฝันอยากเป็นผู้กำกับคิวบู๊ ก่อนจะออกจากสตั๊นแมนมาขับแท็กซี่ เพื่อหาเลี้ยงหลานชาย’ชาฮุน’ที่กำลังศึกษาเล่าเรียน โดยโกหกหลานว่ายังทำอาชีพสตั๊นแมนอยู่ วันนึงหลานชายรู้ความจริงก่อนเดินทางไปสาธิตยูโดที่โมร็อกโกอ่านต่อ

"Breaking แตกหัก" มันเริ่มต้นจากสิ้นหวัง แล้วจบด้วยไฟแห่งความ

รีวิวหนัง “Breaking แตกหัก” มันเริ่มต้นจากสิ้นหวัง แล้วจบด้วยไฟแห่งความ… และนี่คือหนังดราม่าอาชญากรรมเรื่องเล็ก ๆ ที่ไม่อยากให้พลาดเหมือนกัน “Breaking แตกหัก” ที่ถูกฉาบเอาไว้สถานการณ์จับตัวประกันและปล้นธนาคารสุดลุ้นระทึก แต่ปรากฏว่าหนังเรื่องนี้กลับเต็มไปด้วยประเด็นที่บียอนด์ไปมากกว่า ทั้งเจ็บปวด ทั้งแสบสันต์ และยังเป็นการตบหน้าฉาดใหญ่ ๆ สะท้อนมุมมองความเหลื่อมล้ำในสังคมได้อย่างเป็นอย่างดีในยุคปัจจุบัน Breaking แตกหัก เป็นหนังที่มีเค้าโครงสร้างมาจากเรื่องจริง ที่เล่าถึงเรื่องราวของอดีตนาวิกโยธินผ่านศึก ที่ต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายของชีวิต ทั้งสภาพจิตใจและสภาวะอารมณ์อย่างหนักหน่วง เมื่อเขากำลังพยายามจะกลับไปสู่ชีวิตในฐานะพลเรือนธรรมดา แต่การปรับตัวและปรับชีวิตของเขาไม่ใช่เรื่องง่ายเลย อีกทั้งเขายังมีอีก 2 ชีวิตเป็นลูกเมียที่ต้องคอยดูแลอยู่ข้างหลัง และสิ่งที่เขาตัดสินใจทำกำลังจะเปลี่ยนแปลงชีวิตไปตลอดกาล นี่คือผลงานการกำกับและเขียนบทของผู้กำกับหญิง “เอบี ดามาริส คอร์บิน” ที่ถือว่าผลงานนี้น่าจะเป็นหนังใหญ่เรื่องแรกของเธอด้วย หนังเรื่องนี้เหมือนพาคนดูขึ้นบนสังเวียนมวยแห่งหนึ่ง เพื่อสังเกตการณ์และเฝ้าดูวิธีการออกหมัดของนักมวยกับคู่ต่อสู้อะไรทำนองนั้น แต่หนังเป็นที่ปล่อยหมัดเด็ด ๆ ออกมาทีก็ทำให้สะอึกได้อยู่ไม่น้อย เพราะเป็นการใช้ลีลาและสถานการณ์ในการเล่าเรื่องได้ค่อนข้างคมคาย Breaking อาจจะเป็นหนังที่ไม่ได้มีนักแสดงเยอะแยะและดาราก็ไม่ได้มีชื่อเสียงระดับแถวหน้าอะไร แต่ต้องยกย่องการแสดงของ “จอห์น โบเยก้า” ได้แบบเต็มปากเต็มคำเลยว่า เขาถ่ายทอดออกมาได้เหมาะเจาะ และแทบจะพยุงหนังเรื่องนี้เอาไว้ได้เพียงลำพังคนเดียวเลยก็ว่าได้ แต่ส่วนหนึ่งก็ต้องขอบคุณบทหนังที่ส่งเสริมตัวละครของเขาเป็นอย่าง กับลีลาการเล่าเรื่องนี้ค่อย ๆ บิ้วท์จังหวะและอารมณ์คนดูได้ทีละเรื่อย ๆอ่านต่อ

“The Pope’s Exorcist โป๊บปราบผี” ใช้ความศรัทธา เอาชนะความกลัว

รีวิวหนัง “The Pope’s Exorcist โป๊บปราบผี” ใช้ความศรัทธา เอาชนะความกลัว เปิดประตูสู่ความจริง เมื่อภาพยนตร์ “The Pope’s Exorcist โป๊บปราบผี” ได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างมาจากแฟ้มเหตุการณ์จริงของหลวงพ่อ“เกเบรียล อามอร์ธ” ผู้ทำหน้าที่ปราบผีแห่งนครวาติกัน โดยหนังมีการเล่าเรื่องราวผ่านแง่มุมของศาสนาคริสต์ ที่มีมิติไม่เน้นหนักไปทางด้านศาสนา แต่เคล้าให้เราได้สัมผัสกับความศรัทธาหลายแง่มุมของศาสนามีทั้งบาปและความชั่วร้ายที่ยังคงตามติดตัวมาจนถึงปัจจุบัน แม้เวลาจะเปลี่ยนผันแต่การกระทำของเราจะอยู่ติดตัวเราเสมอ และพบกับความสยองขวัญจนใจเต้นแรง พร้อมแผงอิทธิฤทธิ์การปราบผีทั่วทุกหนแห่งไปกับเขา เรื่องราวของ บาทหลวงอามอร์ธ เขาได้สืบเรื่องราวการถูกสิงสู่ที่โบสถ์เซนต์ เซบาสเตียนในแคว้นคาสติล ประเทศสเปน มีครอบครัวหนึ่งกำลังเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยการบูรณะอาคารเก่าแก่ โบสถ์แห่งนี้มีประวัติยาวนานกับพระคริสตจักรคาธอลิค และมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นที่นั่น ได้ถูกเปิดเผยออกมา เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นระหว่างช่วงเวลาที่มืดมิดที่สุดของพระคริสตจักรคาธอลิค เพราะมีการลงโทษคนที่การแสดงออกของพวกเขาไม่ได้สื่อถึงการมีศรัทธาอย่างลึกซึ้ง เราทุกคนต่างก็คิดว่านั่นเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการล้วงลึกเข้าไปในประวัติศาสตร์ของสเปน เผยความเก่งกาจของ กาเบรียล อามอร์ธ ผ่านการปราบซาตานตั้งแต่เริ่มต้น ก่อนจะโยงเข้าสู่สถานที่หลักที่กำลังมีครอบครัวหนึ่งย้ายถิ่นฐานมาเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่เมื่อเป็นสิ่งเดียวที่ครอบครัวเหลืออยู่ ในระกว่างการบูรณะอาคารพวกเขาได้เริ่มพบเจอกับสิ่งแปลกประหลาดเหนือธรรมชาติ และไม่อาจหลีกเลี่ยงได้เมื่อซาตานได้สิงสู่เด็กหนุ่มเฮนรี่ ซึ่งเป็นที่มาที่ทำให้ กาเบรียล อามอร์ธ ต้องมาสู่สถานที่แห่งนี้ และเกิดเรื่องราวขึ้นทั้งหมด โดยเนื้อหาในการเล่าจะไม่ได้ใส่คำสอน หรือการชูเรื่องความเชื่อเข้ามามากนัก แต่ปักหลักในด้านความศรัทธาที่มีต่อพระเจ้า เพื่อให้เรานั้นสามารถต้านทานกับสิ่งชั่วร้าย และบาปที่เคยทำไว้ได้ มีการวางปมความแค้นของซาตานอ่านต่อ

รีวิวหนัง "Watcher เฝ้ามองจ้องเชือด"

“Watcher เฝ้ามองจ้องเชือด” เฉือนเนิบ ๆ ทำเสียวสันหลังวาบได้อยู่นะ ใครที่ชื่นชอบหนังลึกลับสยองขวัญแบบเสียวสันหลังวาย…ต้องไม่พลาด “Watcher เฝ้ามองจ้องเชือด” เป็นว่าด้วยเรื่องราวของ จูเลีย หญิงสาวอเมริกันที่ตัดสินใจย้ายตามแฟนหนุ่มมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่บูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย แต่เธอเริ่มรู้สึกแปลก ๆ และสงสัยว่าชายแปลกหน้าที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับอะพาร์ตเมนต์ของเธอนั้น น่าจะเกี่ยวข้องกับการเป็นฆาตกรตัดหัวหญิงสาวที่เกิดขึ้นในพื้นที่ และนั่นได้นำพาเธอเดินไปสู่ห้วงแห่งอันตราย และนี่คือผลงานล่าสุดของผู้กำกับหญิงดาวรุ่งที่น่าจับตามอง “โคลอี โอคูโน่” ที่เธอเคยแจ้งเกิดมาจากหนังสยองขวัญ “V/H/S/94” ที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในทีมผู้กำกับ นี่จึงกลายเป็นผลงานกำกับหนังยาวเรื่องราวอย่างเต็มตัวของเธอ และเธอก็ได้ทำการใส่ของและใส่สิ่งที่เธออยากเล่าได้อย่างเปี่ยมล้น บนพื้นฐานของหนังที่ยังดำเนินไปด้วยสูตรสำเร็จทั่วไป ที่อาจจะไม่ได้มีความแปลกใหม่อะไรเท่าไหร่นัก โคลอี โอคูโน่ ร่วมเขียนบทหนังเรื่องนี้กับนักเขียนมือใหม่ “แซ็ค ฟอร์ด” ถือว่าพวกเขาค่อย ๆ บรรเลงเพลงสยองในหนังเรื่องนี้ด้วยจังหวะที่ค่อยเป็นค่อยไป คือถ้าหากว่าคุณไม่ค่อยนิยมดูหนังที่เล่าไปแบบเนิบ ๆ ไม่เร่งรีบอะไรเท่าไหร่นัก นี่อาจจะยังไม่ใช่หนังที่เหมาะกับคุณ แต่บนความเนิบช้าในการเล่าของเรื่องนี้นั้น ก็ถือเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์และเป็นจังหวะที่ถูกต้องในการหยิบนำมาใช้ เพราะมันช่วยบิวท์อารมณ์และโทนของหนังได้เป็นอย่างดีเลย ในแง่ความสดใหม่ Watcher เรื่องนี้อาจจะไม่ค่อยมีมากนัก เพราะเชื่อว่าเปิดเรื่องมาผู้ชมก็น่าจะเดาทางออกได้แล้วว่าใครเป็นใคร เพียงแต่ว่าระหว่างทางในการเล่าเรื่องของหนัง ที่ใช้ตัวละครหญิงเป็นตัวนำทางตลอดทั้งเรื่อง โดยสร้างมิติให้กับตัวละครนี้ออกมาได้น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการเป็นคนต่างถิ่นที่เข้ามาต่างบ้านต่างเมือง หรือเสียงที่เบาของเธอที่ไม่อาจจะเปล่งให้ใครสนใจรับรู้ได้ถึงภัยที่กำลังจะมา Watcherอ่านต่อ

รีวิวหนัง "The Covenant"กระตุกต่อมพลีชีพ

“The Covenant” กระตุกต่อมพลีชีพ ถึงคิวผลงานใหม่อีกเรื่องหนึ่งของผู้กำกับ “กาย ริตชี” ที่ได้มีโอกาสลงโรงฉายในเมืองไทยแบบชนกันทั้งสองเรื่อง (อีกเรื่องก็คือ Operation Fortune: Ruse de guerre) ในสัปดาห์กลางเดือนเมษายน และเรื่องนี้คือ “The Covenant” ที่มาพร้อมกับโหมดขึงขัง พกกองกำลังทหารสหรัฐฯ มาอย่างมาดแมน แต่เนื้อแท้ของหนังเรื่องนี้สอดแทรกไปด้วยประเด็นมิตรภาพ ความหวัง และโอกาสในสงคราม ที่เผลอ ๆ อาจจะต้องเสียน้ำตาให้ด้วย The Covenant เป็นเรื่องราวของ จ่าสิบเอก จอห์น คินลีย์ กับ อาเหม็ด ล่ามภาษาชาวอัฟกัน ที่ต้องระหกระเหินฝ่าฟันดงตาลีบานร่วมกัน หลังจากกองกำลังของพวกเขาได้ถูกซุ่มโจมตีอย่างหนักหน่วง โดยที่อาเหม็ดได้พยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อที่จะช่วยชีวิตจอห์นเอาไว้ให้ได้ แต่เมื่อจอห์นฟื้นขึ้นมาทราบว่า อาเหม็ดยังคงหลบ ๆ ซ่อน ๆ อยู่ที่อัฟกานิสถาน ที่ตาลีบานได้หมายหัวเขาเอาไว้จากวีรกรรมที่เขาได้ช่วยเหลือทหารอเมริกันเอาไว้ ทำให้เขาเลือกที่จะกลับไปสู่สมรภูมิตัวเองอีกครั้ง เพื่อช่วยเหลือ…เพื่อนร่วมรบ และก็อีกเช่นเคย The Covenant ก็ยังคงเป็นผลงานการเขียนบทหนังของ 3 ทหารเสือหน้าคุ้นอ่านต่อ