คลิปตัวอย่าง| Causeway |
- เรื่อง Causeway
ประเภท AppleTV/Drama
ผู้กำกับ Lila Neugebauer
ความยาว 1h 32m
ปีที่ฉาย 2022
IMDB 6.5/10
ดูได้ที่ ▶ Apple TV+
รีวิวภาพยนต์เรื่อง : | Causeway |
“Causeway” ที่เป็นตัวเลือกที่ดี ถึงแม้จะค่อนข้างเป็นหนังนอกกระแส แต่กลายเป็นหนังที่ขายการแสดงแบบเด็ดเดี่ยวที่ค่อนข้างซึมซาบถึงหลักการใช้ชีวิตหลังวันร้าย ๆ ได้อย่างน่าสนใจไม่น้อย
Causeway เป็นเรื่องราวของ ลินด์ซีย์ เจ้าหน้าที่ทหารหญิงประจำการอยู่ที่ตะวันออกกลาง แต่เธอได้รับบาดเจ็บระหว่างอยู่ในสมรภูมิ ทำให้ต้องถูกนำตัวส่งรักษาอยู่นานหลายเดือน พร้อมกับได้รับผลกระทบจากอาการบาดเจ็บทางสมอง ที่ทำให้เธอต้องเริ่มตั้งต้นชีวิตตัวเองด้วยการเริ่มกายภาพบำบัดและหัดเดินและยืนใหม่ทั้งหมด ก่อนจะมุ่งหน้ากลับมายังบ้านที่นิวออร์ลีนส์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยความว่างเปล่าสำหรับชีวิตเธอ
นี่คือผลงานการกำกับหนังใหญ่เรื่องแรกของผู้กำกับหญิงรุ่นใหญ่ “ไลลา นอยเกเบาเออร์” ที่ถือว่าเป็นงานเดบิวต์ที่จัดจ้านไม่เบา มาพร้อมกับทีมนักเขียนบทเจนใหม่เช่นเดียวกัน ประกอบด้วย “ออตเตสซา มอชเฟก”, “ลุค โกลเบล” และ “อลิซาเบธ แซนเดอร์ส” ที่พวเขาล้วนแต่เพิ่งจะมีประสบการณ์งานบทไม่เยอะเท่าไหร่นัก แต่ก็บ่มกันออกมาเป็นหนังชีวิตที่เต็มไปด้วยบาดแผลแห่งความช้ำไปทั้งกายและใจอย่างในหนังเรื่องนี้
ก็อย่างที่เกริ่นเอาไว้ตั้งแต่ข้างต้นว่า Causeway ค่อนข้างจัดได้ว่าเป็นหนังนอกกระแส แต่กระนั้นตัวหนังก็ไม่ได้เป็นอะไรที่ดูยากเลย นี่คือหนังชีวิตของทหารหญิงคนหนึ่ง หลังจากการเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ในสมรภูมิที่ประจำการอยู่ การได้รับบาดเจ็บของเธอทำให้ต้องกลับมานับหนึ่งใหม่อีกครั้ง และการที่หนังเลือกเล่าเรื่องผ่านสายตาของลินด์ซีย์เป็นหลัก ก็ถือว่าเป็นทางการเลือกที่เหมาะสม เพราะชีวิตและแนวคิดภายใต้สภาพกายและภาวะจิตใจที่ยังไม่ 100% ก็ช่างน่าค้นหายิ่งนัก
องค์ประกอบงานสร้างของหนังอาจจะไม่ได้มีอะไรมาก เพราะมันเป็นหนังชีวิตทั่ว ๆ ไป ที่เน้นขายการแสดงและการสื่อสารทางอารมณ์มากกว่า บทของหนังเรื่องนี้อาจจะยังไม่ถึงขั้นสมบูรณ์แบบอะไรมากนัก การเล่าเรื่องก็ยังไม่ได้ดึงดูดใจและตราตรึงผู้ชมได้ถึงขนาดนั้น แต่เพราะได้การแสดงและการถ่ายทอดจากนักแสดงระดับมืออาชีพมาก ๆ นั่นเอง เป็นจุดขายที่สามารถกระตุ้นและเพิ่มเลเวลความดีงามให้กับหนังเรื่องนี้ขึ้นได้
รู้สึกประทับใจโทนจังหวะของหนังเรื่องนี้ เพราะหนังเริ่มต้นจากความโดดเดี่ยวมาก ๆ แทบไม่พูดไม่จา ก่อนจะค่อย ๆ ให้คนดูซึบซับและทำความรู้สึกสัมพันธ์และมิตรภาพใหม่ ๆ ไปพร้อมกับตัวละครหลัก จากนั้นหนังก็เริ่มมีเสียงพูด เสียงสนทนา แลกเปลี่ยนทำความรู้จักซึ่งกันและกัน ตามประสาการผูกมิตรใหม่ และก็ค่อย ๆ มั่นคงขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนจะไปสู่จุดเปลี่ยนและอารมณ์แปรผัน กลับมาสู่ความเงียบเชียบอีกครั้ง ที่กลายเป็นอินเนอร์ที่สะท้อนถึงภาวะอารมณ์ของลินด์ซีย์ได้เป็นอย่างดี
แน่นอนว่า เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ คือความดีงามของหนังเรื่องนี้ การแสดงของเธอนั้นแบกหนังเรื่องที่เรื่องได้อย่างสบาย ๆ เหมือนไม่ได้ออกแรงที่จะสวมบทบาทนี้ด้วยซ้ำ เธอแสดงออกมาได้เป็นธรรมชาติ แค่นี้คนดูก็รู้สึกได้กำไรกับการได้เห็นนักแสดงระดับรางวัลมอบแอคติ้งที่น้อยแต่มากให้ได้ดู ภาษากายและการสื่อสารทางอารมณ์นั้น เจนลอว์ถือว่าสอบผ่านฉลุย เป็นส่วนที่ยกระดับให้กับหนังเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี
และยิ่งเมื่อมาเข้าฉากร่วมกับ “ไบรอัน ไทรี เฮนรี่” ที่เรามักจะเห็นเขาเล่นบทเป็นตัวโจ๊ก ตัวแย่งซีนอยู่บ่อย ๆ แต่กลับมาแสดงโหมดดราม่าจัด ๆ ในหนังเรื่องนี้ ก็ถือว่าเป็นอีกแนวทางที่แปลกใหม่สำหรับเขาเช่นกัน ถึงแม้ว่าบทบาทนี้อาจจะไม่ได้สร้างมิติอะไรขึ้นมากเท่ากับเจนลอว์ แต่ก็เป็นส่วนสมทบที่ช่วยประคับประคองให้ Causeway น่าหลงใหลและเต็มไปด้วยการแสดงที่น่าประทับใจไปตลอดทาง และทั้งคู่ก็จับมือกันช่วยทำให้มันลื่นไหลผ่านอารมณ์ของตัวละครไปด้วยดี