เรื่องย่อหนัง DOCTOR SLEEP
เรื่องราวในภาคนี้จะมุ่งเน้นไปที่เด็กชายในภาคที่แล้วที่เติบโตขึ้นพร้อมกับสัมผัสวิเศษในตัวเอง เขากลายเป็นแดนนี่ ทอร์แรนซ์ ในวัยผู้ใหญ่ที่ติดเหล้าเพราะพยายามจะกลบความสามารถพิเศษของตัวเองลงไป จนวันหนึ่งเขาได้เข้ากลุ่มบำบัดและกลับมาเป็นคนเดิมอีกครั้ง พร้อมกับการเดินทางไปอยู่ที่ใหม่ แต่ก็ไม่พ้นต้องพบเจอกับเหตุบางอย่าง เขาได้พบเจอกับกลุ่มประหลาดผู้กระหายกินไอวิญญาณของมนุษย์ ซึ่งนำโดย โรสเดอะแฮท ไม่พอแดนนี่ยังได้พบกับ แอบรา เด็กสาวลูกครึ่งผิวสีที่มีสัมผัสวิเศษเช่นเดียวกับเขา เธอไปยุ่งเกี่ยวกับกลุ่มประหลาดพวกนั้นเข้า จนดึงเขาเข้าไปร่วมโดยปริยาย
รีวิวหนัง DOCTOR SLEEP
ภาคต่อที่กำเนิดขึ้นใน 40 ปีถัดมาหลังจากภาคแรก หยิบเอาผลงานการเขียนของ Stephen King มาปรับแต่งให้กลายเป็นเรื่องราวภาคต่อของหนังสยองขวัญในตำนาน แต่ภาคนี้เป็นการเล่าในแบบหนังสยองขวัญที่มีเรื่องราวเชิงแฟนตาซีผสมแอคชั่นเข้าไปหน่อยๆ ด้วยเรื่องราวของมันเป็นการต่อสู้กันของกลุ่มผู้มีสัมผัสวิเศษอันได้แก่ แดนนี่ และ แอบรา กับอีกฝ่ายคือกลุ่มลัทธิคัลต์ที่คร่าชีวิตเด็กผู้บริสุทธิ์เพื่อสูดไอชีวิตสร้างความอมตะให้กับตัวเอง หนังใช้การนวดด้วยการปูเรื่องอยู่นานพอควร พาเราไปทำความรู้จักกับกลุ่มก้อนของโรสเดอะแฮทและพวกพ้อง พวกของเธอถูกค้นพบโดยแอบราผู้มีสัมผัสวิเศษอีกคน แต่เธอไม่หลบซ่อนตัวอย่างเช่นแดนนี่ หากใช้วิธีประกาศตัวแล้วสู้ไม่ถอย กระทั่งโรสเองก็ยังต้องหวั่นใจ
ภาคต่อของหนังสยองขวัญที่ดูไม่เหมือนหนังสยองขวัญสักเท่าไหร่ มีความเป็นหนังรวมพลังซูเปอร์ฮีโร่สองฝ่ายที่เข้าห้ำหั่นกันด้วยกลยุทธ์ ดูไปก็คล้ายจะเป็น X-Men พวกกลุ่มพลังจิตปะทะกลุ่มวายร้ายที่ใช้องค์ประกอบจากภาคก่อนมาบอกเล่า นี่จึงไม่ใช่หนังสยองขวัญอย่าง ‘The Shining’ ในภาคต้น เรื่องที่เล่านั้นคนละอย่างหากแต่ยังเก็บความนิ่งแต่น่าสะพรึงมาใช้ต่อ สไตล์งานภาพและงานกำกับของ Mike Flanagan นั้น ฉันอาจจะไม่ได้ซึมลึกสักเท่าไหร่ แต่ก็เป็นคนที่รับได้กับทุกวิธีการของหนังสยองขวัญ หนังเดินเรื่องด้วยความเรียบนิ่งอยู่พอประมาณ เสริมความสั่นสะพรึงในหัวใจคนดูด้วยเสียงดนตรีประกอบที่มักจะมาให้รูปแบบจังหวะการเต้นของหัวใจ
บางครั้งก็ใช้ความดังขึ้นมาอย่างปัจจุบันทันด่วนให้ประสาทตื่นตัวไปได้ชั่วขณะ แน่นอนการตัดต่อและการเดินไปของเรื่องในลักษณะนี้ อาจจะไม่ได้ถูกใจถูกจริตคนกลุ่มใหญ่นัก และจำเป็นต้องใช้ความทรหดอดทนอยู่สักหน่อย ติดตามเรื่องราวที่ค่อยๆ งวดขึ้นเรื่อยๆ บางคนอาจจะบอกว่ามันใช้เวลาปูเรื่องเนิ่นนาน แต่ฉันก็ว่ามันก็ไม่ได้เยิ่นเย้ออะไร เพียงแต่ท่วงทำนองของมันอาจจะเชื่องช้าไปบ้าง แต่มันก็เต็มไปด้วยความรู้สึกชวนอยากรู้ ชวนสงสัย ทำให้อยากจะติดตามไปเรื่อยๆ ได้ตลอด เพียงแต่การใช้สไตล์แบบนี้ยาวๆ มันก็อาจจะทำให้เกิดอาการง่วงหาวกันไปบ้าง สิ่งที่ดูเหมือนอัดอั้นมาเนิ่นนานกลับแตกโพละเอาในช่วง 20-30 ท้าย เมื่อเกิดปรากฏการณ์แฟนเซอร์วิสที่ทำให้แฟนพันธุ์แท้แห่ง The Shining ต้องฟิน
สิ่งที่เขาจดจำไว้ถูก Mike Flanagan หยิบมาแสดงความคารวะในสไตล์ที่ชวนอิ่มเอม ชักชวนให้แฟนานุแฟนออกมาชื่นชมกันขรมว่านี่คือหนังภาคต่อที่สร้างจากนิยายของชายในตำนานและสร้างได้ตอบโจทย์ ทั้งเฉลยในปริศนาที่คาใจมาเนิ่นนาน ทั้งหยิบความทรงจำและเอกลักษณ์ลายเซ็นมาใช้จนหมดเปลือก กลายเป็นหนังสยองขวัญที่ไม่เชิงสยองขวัญ แต่กลายเป็นหนังที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งของปีนี้ สำหรับคนที่ไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้ของ The Shining สามารถทำได้สองแบบครับ คือ จะดูหมอหลับก่อนก็ได้ แล้วกลับบ้านไปเติมเต็มประสบการณ์ของวันเก่ากับโรงแรมนรกได้ใน Netflix หรือจะเลือกดูภาคต้นก่อนเพื่อปูพื้นฐาน แล้วมาเต็มอิ่มกับภาคนี้ในโรงภาพยนตร์
ต้วอย่างหนัง DOCTOR SLEEP
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง DOCTOR SLEEP
- ชื่อเรื่อง: Doctor Sleep || ลางนรก
- ผู้กำกับ: Mike Flanagan
- ผู้เขียนบท: Stephen King, Mike Flanagan
- ประเภท: ดราม่า || แฟนตาซี || สยองขวัญ
- นำแสดงโดย: Rebecca Ferguson, Ewan McGregor, Jacob Tremblay
- ความยาว: 151 นาที
- กำหนดฉาย: 7 พฤศจิกายน, 2019