📽คลิปตัวอย่างภาพยนต์👁🗨🛩 Interceptor สงครามขีปนาวุธ🚀
- เรื่อง Interceptor
ประเภท Action/Adventure/Drama
ผู้กำกับ Matthew Reilly
ความยาว 1h 39m
ปีที่ฉาย 2022
IMDB 6.5/10
📺รีวิวภาพยนต์🎬🛩 Interceptor สงครามขีปนาวุธ🚀
Interceptor สงครามขีปนาวุธ เป็นเรื่องราวของ เจเจ คอลลินส์ ทหารหญิงที่ต้องมาเผชิญหน้ากับภัยก่อการร้ายคุกคามอเมริกาจากอาวุธมิสไซล์ที่หมายจะยิงถล่ม 16 เมืองหลัก โดยเธอเพิ่งจะกลับมาประจำการที่ฐานยิงสกัดกั้นขีปนาวุธกลางมหาสมุทรแปซิฟิกได้เพียงไม่กี่ชั่วโมง ก็ได้พบกับ อเล็กซานเดอร์ เคสเซล อดีตทหารสหรัฐฯ ที่แปรพักตร์และเข้าข้างฝ่ายศัตรู เธอต้องฝ่าฝันอุปสรรคที่อยู่ตรงหน้ากับปมอดีตที่ยังฝังใจ โดยมีประชากร 300 ล้านคน ตกเป็นเป้าหมายและเดิมพันในสงครามครั้งนี้
นี่คือผลงานหนังเรื่องแรกของผู้กำกับ “แมทธิว ไรย์ลีย์” ที่เขายังรับหน้าที่ร่วมเขียนบทหนังด้วย บอกตรง ๆ งานกำกับของเขาก็ไม่ได้มีเอกลักษณ์อะไรเลย ก็คือหนังแอคชั่นที่มีลักษณะเป็นหนังเกรดรอง เหมือนนั่งดูหนังแอคชั่นสำหรับหนังแผ่นหรือหนังออนไลน์ โปรดักชั่นก็พื้นฐานและไม่ได้มีอะไรโดดเด่น ขณะที่พล็อตเรื่องก็เชยแสนเชย ยังโยงใยประเด็นรัสเซียกับอเมริกาตีกันแบบแนวคิดเดิม ๆ
แต่ปรากฏว่าจังหวะการเล่าเรื่องของหนังที่ธรรมดา ๆ นั้น กลับช่วยส่งเสริมทำให้หนังดูสนุกดี เป็นความบันเทิงแบบที่ไม่ได้ให้ความแปลกใหม่ แต่ลุ้นและระทึกใจกับทุกมิชชั่นที่ตัวละครต้องเผชิญหน้า อีกทั้งภายใต้พล็อตเรื่องที่เชยเหล่านั้น หนังกลับใส่ประเด็นเสริมเข้ามาได้อย่างแยบยล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสังคมความเกลียดชัง (hate crime) หรือ การเปิดโปงปมคุกคามทางเพศ (sexaul harassment) ถึงแม้ว่าจะใส่เข้ามาแค่ผิวเผินและเป็นตัวประกอบเท่านั้น แต่ก็เพิ่มน้ำหนักให้กับหนังได้ดียิ่งขึ้น
Interceptor ก็คือหนังแอคชั่นสไตล์เดิม ๆ เหมือนกับหนังเมื่อ 20 ปีก่อน ทิศทางเรื่องเดาไม่ยาก องค์ประกอบอะไรต่าง ๆ ง่ายไปหมด ก็กลายเป็นหนังที่ดูแล้วย่อยง่าย เป็นหนังที่มาเพื่อเชิดชูความแข็งแกร่งของผู้หญิง เป็นหนังบู๊สาวกล้าที่ทั้งโอเว่อร์และเก่งเกินจริง แต่ก็สามารถมอบอรรถรสที่ดูได้สนุกและเพลิดเพลินได้ดีแบบไม่ต้องคิดอะไร
“เอสซ่า พาทากี” มาแบกรับหนังเรื่องนี้เอาไว้ได้อยู่หมัด แม้ว่าเราอาจจะไม่ได้คุ้นชื่อเธอผู้นี้กันเท่าไหร่นัก แต่ถ้าหากบอกว่า เธอคนนี้คือภรรยาของซุปตาร์ “คริส เฮมส์เวิร์ธ” แน่นอนว่าทุกคนจะต้องร้องอ๋อ อันที่จริงเธอก็มีประสบการณ์เล่นหนังมาแล้วหลายเรื่อง ไม่ว่าจะ “Fast Five” หรือ “Thor: The Dark World” แต่คนยังไม่คุ้นกับหนังที่เธอมาเล่นแบบฉายเดี่ยวเช่นนี้ และการแสดงของเธอก็ถือว่าทำได้ดีตามมาตรฐาน
ขณะที่นักแสดงคนอื่น ๆ ก็ถือว่าทำได้ดีตามมาตรฐานเช่นกัน เพราะตัวบทและคาแรกเตอร์ต่าง ๆ ในหนังเรื่องนี้ไม่ได้เน้นและให้ความสำคัญมากนัก ไม่ว่าจะเป็น “ลุค บราซีย์”, “แอรอน เกลนน์”, “มาเยน เมตตา” หรือ “พอล แคซาร์” ไม่เพียงเท่านั้นคุณจะได้พบกับเซอร์ไพรส์เด็ด ๆ ที่ซ่อนเอาไว้ในหนังเรื่องนี้ แบบต้องร้อง “อุ้ย!” เป็นเสียงหนุ่ม กรรชัย
เอาเป็นว่าโดยภาพรวมแล้วนั้น Interceptor จัดได้ว่าเป็นหนังแอคชั่นสูตรสำเร็จแบบเดิม ๆ ที่หาอะไรแปลกใหม่ไม่ได้เลย พล็อตง่าย ๆ และเชยสะบัด ให้ความรู้สึกเหมือนดูหนังเกรดบีหรือหนังบู๊เก่า ๆ ที่ชอบเอามาฉายตอนเย็นวันเสาร์–อาทิตย์ แต่ตัวหนังกลับเล่าเรื่องได้สนุกและลุ้นระทึกได้ดี เป็นหนังที่ผู้ชมจะสามารถเอ็นจอยกันมันได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องคาดหวังอะไรเลย