หลังภาค 2 ทิ้งเชื้อไว้แล้วว่า พ่อของโปยังมีชีวิตอยู่หลังการรับรู้โดยสายลมที่พัดข่าวมาให้ มาภาคนี้จึงดำเนินการสานต่อทันทีโดยการให้คุณพ่อของโปเดินทางมาพบกับโป พร้อมกับการมาของตัวร้ายชื่อว่า ไค่ ผู้ดูดพลังของอาจารย์ต่างๆไว้ในมณีหยกโดยครั้งก่อนคนที่หยุดไว้คือปรมาจารย์อูเกว แต่เมือไม่มีอาจารย์อูเกวแล้ว คนที่จะหยุดได้ก็คือโปนั่นเอง และหนึ่งในกุญแจที่จะหยุดได้ก็คือเหล่าแพนด้าที่เคยหยุดมาแล้วในตำนาน โปจึงต้องเดินทางไปยังหมู่บ้านของพวกแพนด้าเพื่อเรียนรู้การเป็นแพนด้าและพร้อมรับมือกับไค่อีกครั้งเมื่อล่วงเข้าสู่หนังภาคสามแล้ว ปัญหาส่วนใหญ่ของหนังหลายๆเรื่องคือการเล่าเรื่องที่หากภาคแรกคือการเปิดเนื้อแล้ว ภาคสองคือภาคที่จัดเต็มยิ่งกว่าเดิม ภาคสุดท้ายหรือภาคต่อมาจะเป็นประเด็นให้เล่นยากหากทั้ง 2 ภาคทำไว้ดีมาก ซึ่งภาค 3 นี้ไม่ถือว่าเลวร้าย เพียงแต่สิ่งเดียวที่เป็นจุดเด่นของหนังคือความน่ารักของเหล่าแพนด้า ทั้งโป และแพนด้าน้อยที่เอกลักษณ์ล้นปรี่เอามากๆ และใช้ได้คุ้มค่า เพียงแต่เนื้อเรื่องที่ดร็อปลงและไม่สนุกเท่าของเก่าเท่านั้นเอง

การได้ดูต่อเนื่องในช่วงเวลาใกล้ๆกัน ทำให้ผมพบว่า สิ่งที่ดีมากๆสำหรับหนังชุดนี้คือมาตรฐานดีไม่มีตก หากตกก็ไม่ตกมาก ภาคสามอาจไม่ใช่ภาคที่ดีที่สุด แต่เป็นหนังทำหน้าที่ ความเป็นภาคสามได้ดีเยี่ยม สามารถรับช่วงต่อได้อย่างสมศักดิ์ศรี เราจะพบความต่อเนื่องเหมือนกับหนังเรื่องเดียวกัน ซึ่ง ความต่อเนื่องนี้ไม่ใช่แค่เนื้อเรื่องทั่วๆไป แต่ ยังรวมถึง ปมจิตใจ และ พัฒนาการของตัวละครภาคแรกเป็นเหมือนกับการพาไปรู้จักกับเด็กคนหนึ่งเมื่อได้รับอำนาจพิเศษมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ท่ามกลางความสงสัยของผู้คนรอบข้างกับสิ่งที่สามารถทำได้ เราสามารถเลือกได้ว่าจะเดินไปตามทางที่ฟ้ากำหนดหรือจะเดินไปทางที่เราใช้ชีวิตสุขสบายอยู่แล้วกันแน่ภาคสองแสดงให้เห็นเมื่อเด็กคนนั้นเริมใช้ชีวิตอยู่กับสิ่งที่ฟ้าลิขิตและเริ่มมีความสุขกับสิ่งนั้น อุปสรรคก็เข้ามาในชีวิตให้ค้นหาตนเองอีกครั้ง เมื่อพบเจอกับศัตรูที่รู้เรื่องในอดีต เด็กคนนี้จะเดินกลับไปยังเส้นทางที่อดีตทอดทิ้งไว้ หรือจะใช้ชีวิตต่อไปบนเส้นทางที่ตนเลือกแล้วภาคสามเป็นการค้นหาตัวตอนของตนเองอีกครั้ง หลังการพบกันของพ่อที่ไม่คิดว่าจะเจอกันอีก การเลือกที่จะใช้ชีวิตครั้งสำคัญจะอยู่กับพ่อที่ตนพลัดพราก หรืออยู่กับพวกพ้องที่สู้ด้วยกันมาและเตี่ยที่เลี้ยงดูมาตลอด รวมไปถึงความหมายที่แท้จริงของนักรบมังกร

การดำเนินชีวิตของโป ล้วนแต่ต้องพานพบกับทางเลือกอยู่เสมอ ดั่งเช่นที่ใครหลายๆคนเคยกล่าวเอาไว้ ว่าเราทุกคนมีทางเลือกเสมอ และสิ่งที่โปเลือกนั้นล้วนแล้วแต่ส่งผลดีมาเสมอกลับกันเมื่อเรามองดูเหล่าตัวร้ายในหนังทั้ง 3 ภาคแล้วเรากลับพบว่าทั้ง ไต้ลุง อ๋องเชน และล่าสุดอย่างไค ล้วนแล้วแต่เป็นผู้มีวิชาเยี่ยมยุทธ มีความสามารถ เพียงแต่ทั้งสามคนเลือกที่จะไปยังเส้นทางที่ดำมืด และเส้นทางที่ผิด ตอบสนองตัณหาของตนเอง ตอบสนองปมด้อยของตนเอง ตอบสนองสิ่งที่ตัวเองไม่เคยมี สุดท้ายก็ต้องพบกับจุดจบที่ได้รับมาจากการกระทำของตนเอง เพียงเพราะทั้ง 3 คนไม่มีอาเตี่ยของโปมาคอยสอนหน้าที่ของผู้รับผิดชอบในการใช้ชีวิต การมองสิ่งต่างๆให้พิเศษ ไม่มีอาจารยืชิฟูมาคอยชื้ทางที่ถูกที่ควร และไม่มีเพื่อนๆอย่าง 5 ผู้พิทักษ์ที่คอยปลดปล่อยเวลามีเรื่องเครียดหรือไม่สบายใจนั่นเองแต่ใช่ว่าโปจะไม่เคยพลาด แต่สิ่งที่ตัดสินความเป็นฮีโร่นั้นไม่ใช่ความผิดพลาด แต่เป็นการก้าวข้ามความผิดพลาดในอดีตต่างหาก ซึ่งข้อนี้ของโปทำให้โปกลายเป็นนักรบมังกรที่ยอดเยี่ยมได้

การดำเนินชีวิตของโป ล้วนแต่ต้องพานพบกับทางเลือกอยู่เสมอ ดั่งเช่นที่ใครหลายๆคนเคยกล่าวเอาไว้ ว่าเราทุกคนมีทางเลือกเสมอ และสิ่งที่โปเลือกนั้นล้วนแล้วแต่ส่งผลดีมาเสมอกลับกันเมื่อเรามองดูเหล่าตัวร้ายในหนังทั้ง 3 ภาคแล้วเรากลับพบว่าทั้ง ไต้ลุง อ๋องเชน และล่าสุดอย่างไค ล้วนแล้วแต่เป็นผู้มีวิชาเยี่ยมยุทธ มีความสามารถ เพียงแต่ทั้งสามคนเลือกที่จะไปยังเส้นทางที่ดำมืด และเส้นทางที่ผิด ตอบสนองตัณหาของตนเอง ตอบสนองปมด้อยของตนเอง ตอบสนองสิ่งที่ตัวเองไม่เคยมี สุดท้ายก็ต้องพบกับจุดจบที่ได้รับมาจากการกระทำของตนเอง เพียงเพราะทั้ง 3 คนไม่มีอาเตี่ยของโปมาคอยสอนหน้าที่ของผู้รับผิดชอบในการใช้ชีวิต การมองสิ่งต่างๆให้พิเศษ ไม่มีอาจารยืชิฟูมาคอยชื้ทางที่ถูกที่ควร และไม่มีเพื่อนๆอย่าง 5 ผู้พิทักษ์ที่คอยปลดปล่อยเวลามีเรื่องเครียดหรือไม่สบายใจนั่นเอง
แต่ใช่ว่าโปจะไม่เคยพลาด แต่สิ่งที่ตัดสินความเป็นฮีโร่นั้นไม่ใช่ความผิดพลาด แต่เป็นการก้าวข้ามความผิดพลาดในอดีตต่างหาก ซึ่งข้อนี้ของโปทำให้โปกลายเป็นนักรบมังกรที่ยอดเยี่ยมได้

ตัวอย่าง : Kung Fu Panda 3