คลิปตัวอย่าง |Mr. Harrigan’s Phone |
- เรื่อง Mr. Harrigan’s Phone
ประเภท Drama/Horror/Mystery
ผู้กำกับ John Lee Hancock
ความยาว 1h 44m
ปีที่ฉาย 2022
IMDB 6.0/10
รีวิวภาพยนต์ | Mr. Harrigan’s Phone |
“Mr. Harrigan’s Phone โทรศัพท์คนตาย” ที่จับเอาไว้น่ากลัวมาเล่นกับเทคโนโลยีได้อย่างแยบยล ผ่านมุมมองเส้นเรื่องสยองขวัญที่คนดูจะต้องรู้สึกขนลุกซู่!
Mr. Harrigan’s Phone เล่าเรื่องราวของ เคร็ก เด็กหนุ่มที่อาศัยอยู่ในเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งได้มาผูกมิตรกับ คุณฮาร์ริแกน มหาเศรษฐีสูงวัยผู้รักสันโดษ ทั้งคู่เริ่มรู้สึกผูกพันกันโดยไม่คาดคิดเพราะต่างก็รักหนังสือและการอ่านเหมือนกัน แต่เมื่อคุณฮาร์ริแกนเสียชีวิตลง เคร็กก็ได้ค้นพบว่าบางอย่างกลับไม่ได้เลือนหายหรือตายตามไปด้วย เขาต้องแปลกใจที่ยังติดต่อกับเพื่อนต่างวัยคนนี้ได้ผ่านโทรศัพท์ไอโฟนที่ฝังไปพร้อมศพของเขา เรื่องราวแนวก้าวพ้นวัยเหนือธรรมชาตินี้จะเผยให้เห็นว่าสายสัมพันธ์บางอย่างยังโยงใยถึงกันอยู่เสมอ
นี่คือผลงานล่าสุดของผู้กำกับที่มักจะได้ดีกับงานแนวดราม่าเสมอ ๆ อย่าง “จอห์น ลี แฮนค็อก” ที่ดูเหมือนว่าครั้งนี้น่าจะเป็นครั้งแรกที่เขาหันมาหยิบจับหนังดราม่าสยองขวัญดูบ้าง และเขาก็ได้หยิบเอาเรื่องสั้นของเจ้าพ่อนิยายสยอง สตีเฟ่น คิง มาละเลงและเขียนบทหนังเรื่องนี้ขึ้นมา โดยเป็นการหยิบโยงความสยองเข้ากับเทคโนโลยียุคแรก ๆ ได้อย่างน่าสนใจ

เพียงแต่น่าเสียดายไปสักหน่อย เพราะว่า Mr. Harrigan’s Phone กลายเป็นหนังสยองขวัญที่ดำเนินเรื่องราวไปแบบขาดเสน่ห์ที่ควรจะมี ท่วงทำนองของหนังเรียบเรียงไปแบบค่อนข้างเนิบช้า มีลักษณะการผสมผสานของหนังแนว coming-of-age ที่สะท้อนเข้ากับสภาพสังคมของคนหนุ่มสาวเจนวายที่เติบโตมาทันในช่วงไอโฟนรุ่นแรก ๆ วางขาย
บทหนังและการเล่าเรื่องของ Mr. Harrigan’s Phone ยังไม่ค่อยสัมผัสเข้าถึงใจผู้ชมได้สักเท่าไหร่ ด้วยความช้าในการเล่าเรื่องไปสักหน่อย หนังใช้เวลาผ่านไปเกือบครึ่งเรื่องกว่าจะค่อย ๆ เข้าสู่เรื่องราว แต่เมื่อเข้าสู่โครงเรื่องและเส้นเรื่องหลักแล้ว หนังก็ยังไม่สามารถขับเสน่ห์ออกมาได้ดีเท่าที่ควรอยู่ดี เพราะเหมือนหนังยังสับสนว่าจะไปในทิศทางและโทนที่จะเป็นหนังสยองหรือหนังวัยรุ่น แม้ว่าจะยังคงบรรยากาศความหลอนไว้อยู่ตลอดเวลา แต่ยังไร้ซึ่งความน่ากลัว
แน่นอนว่า “เจเดน มาร์เทลล์” ยังคงเป็นนักแสดงหนุ่มเจนใหม่ของวงการที่มีฝีมือการแสดงที่จัดจ้านไม่น้อย และเขาก็คือนักแสดงที่เล่นแนวดราม่าได้ถนัดมือทีเดียว หนังเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นอีกลู่ทางที่ให้เขาได้ฉายแสง แต่ก็รู้สึกน่าเสียดายอีกครั้ง เพราะว่าบทบาทของเขาที่ได้รับในหนังเรื่องนี้ก็แทบจะไม่ได้แตกต่างไปจากหนังวัยไฮสคูลเรื่องก่อน ๆ ที่เขาเคยถ่ายทอดเอาไว้สักเท่าไหร่
กลับกลายเป็นว่า เจเดน มาร์เทลล์ ยังค่อนข้างติดภาพคาแรกเตอร์เด็กนักเรียนแบบเดิม ๆ ที่ภาพจำเหล่านี้กลายเป็นสิ่งที่เขากำลังพยายามจะสลัดคราบให้ออก แต่ดูเหมือนว่าจะติดแน่นหนากับตัวเขาไม่น้อย แม้จะพยายามไต่ระดับการเติบโตในคาแรกเตอร์มากแค่ไหนแล้วก็ตาม ก็พบว่าภาพของเขาก็ยังคงเป็นเด็กหนุ่มวัยรุ่นคนนั้นอยู่
หนังยังมีดาราอาวุโสรุ่นใหญ่ “โดนัลด์ ซูทเทอร์แลนด์” มาร่วมสมทบด้วย แน่นอนว่าเขาคือมืออาชีพที่ให้การแสดงในลักษณะน้อยแต่มาก การปรากฏตัวของเขาหนังก็ถือว่าเป็นหนึ่งองค์ประกอบที่เพิ่มความทรงพลังให้อยู่ไม่น้อย แต่กระนั้นบทบาทของเขาก็แทบจะไม่ได้โดดเด่นอะไรเท่าไหร่ มาเพียงแค่เสริมและเป็นสารตั้งต้นของเรื่องราวทั้งหมดก็เพียงแค่นั้น
อาจจะกล่าวได้ว่า Mr. Harrigan’s Phone ไม่ใช่หนังผีหวือหวาเปลืองซีนแบบที่เราคุ้นชินกับงานเขียนของ สตีเฟน คิง แต่เรื่องนี้เป็นหนังสยองขวัญที่ปะปนเข้ากับปมดราม่าและทับซ้อนเข้ากับหลักการเชิงจิตวิทยาเบา ๆ มีลูกเล่นผสมใส่เข้ากับความลับและความเหงาของความเป็นมนุษย์ ลึกเข้าไปในแก่นความคิดและจิตใต้สำนึกของคน ที่อาจจะลึกเกินไปหน่อย เกินไปกว่าที่คนดูจะซึบซับและเข้าใจได้ถ่องแท้