คลิปตัวอย่าง▶สมรภูมินอกลวดหนาม (Outside the Wire)
- เรื่อง Outside the Wire
ประเภท Action/Adventure/Fantasy
ผู้กำกับ Mikael Håfström
ความยาว 1h 54m
ปีที่ฉาย 2021
IMDB 5.9/10
🎈รีวิวหนังใหม่ ▶สมรภูมินอกลวดหนาม (Outside the Wire)
เรื่องย่อ: ฮาร์ป อดีตทหารบังคับโดรนสังหาร ตัดสินใจขัดคำสั่งยิงจรวดช่วยหน่วยรบ 38 นายที่อยู่กลางดงศัตรูโดยทำการสละชีวิตทหาร 2 นายไปพร้อมกับทหารฝั่งศัตรู และทำให้เขาถูกสั่งย้ายไปร่วมภารกิจกับ ผู้กองลีโอ ทหารสุดแปลกที่ไม่มีใครเอา ผู้จะลากฮาร์ปไปกลางสมรภูมิด้วยภารกิจชวนฉงน และการเปิดเผยตัวตนว่าเขาเองเป็นแอนดรอยด์ไม่ใช่คน ซึ่งฮาร์ปจะถูกบังคับให้เลือกทางแยกที่ยากลำบากตลอดการเดินทางครั้งนี้
เป็นหนังเน็ตฟลิกซ์ที่ทรงมาทางแอ็กชันไซไฟจ๋า แต่ความน่าสนใจคงเป็นการกลับมารับบท ซูเปอร์ฮิวแมน ของ แอนโธนี แมกคี ที่ติดตาแฟน ๆ มาจากบท แซม วิลสัน หรือ ฟอลคอน จากหนังมาร์เวล งานนี้จึงต้องมาลุ้นกันว่าถ้าไม่ใช่หนังตระกูลมาร์เวลแล้วเขาจะยังรับบทแนวซูเปอร์ฮีโรรอดหรือไม่ เพราะกับบทบาทแนวไซบอร์กจากซีรีส์ Altered Carbon ซีซัน 2 ทางเน็ตฟลิกซ์ของเขา เรียกว่าล้มเหลวในด้านเสน่ห์ความน่าติดตามพอสมควรเลย

ส่วนด้านทีมงานเบื้องหลังงานสร้างก็ได้ผู้กำกับ มิคาเอล ฮาฟสตรอม จากสวีเดนที่เคยมีผลงานพอสร้างชื่ออย่างหนังสยองขวัญทั้ง 1408 (2007) และ The Rite (2011) โดยในแนวแอ็กชันก็มีผลงานที่น่าจดจำคือ Escape Plan (2013) ที่ ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ปะทะ อาร์โนลด์ ชวาร์ซเน็กเกอร์ ดูจากผลงานถือว่าเชื่อมือการเล่าเรื่องได้ระดับหนึ่งเลยล่ะ แต่จะหวังบู๊ล้างผลาญเลยน่าจะยากนิดหนึ่ง
ซึ่งก็เป็นดังนั้น เพราะเมื่อประจวบเหมาะกับการได้มือเขียนบทอย่าง ร็อบ เยสคอมบ์ ที่เคยผ่านงานเขียนบทให้เกมเนื้อเรื่องน้ำดีอย่าง The Division ที่ผสมแอ็กชัน โรคระบาดกับการเมืองได้เข้มข้นมาเขียนบทด้วยแล้ว ก็ยิ่งส่งเสริมกันดีในทางบทชวนคิดมากกว่าชวนลุ้นระทึกนันสต็อปแน่นอน

ความยากลำบากในการดูหนังเรื่องนี้มาจากตรงนี้เอง เราต้องจับสัญญาณระหว่างบทสนทนาของ 2 คู่หู ที่ผ่านสถานการณ์ต่าง ๆ ไปตลอดเรื่อง โดยความปวดขมองคือ ตัวละครแอนดรอยด์อย่างผู้กองลีโอ มีพฤติกรรมที่ชวนสับสนต่อกฎ 3 ข้อของจักรกลที่มักสำคัญในหนังแนวไซไฟหุ่นยนต์ทุกเรื่อง ซึ่งเราไม่รู้ได้เลยว่า ฮาร์ป หรือตัวแทนผู้ชม ควรตอบรับกับการสอนหรือการหลอกใช้ของ ลีโออย่างไร

นอกจากนั้นสถานการณ์ทางการเมืองแถบบอลข่านที่เป็นฉากหลักของเรื่อง ความขัดแย้งระหว่างกลุ่มเผด็จการทหาร กลุ่มกบฏ ชาวบ้านยูเครน รัฐบาลรัสเซีย และรัฐบาลสหรัฐ ที่คลุ้งอยู่เป็นฉากหลังทั้งเรื่องนั้น ก็แอบต้องคิดตามอยู่ไม่น้อยพอแล้ว
เมื่อทุกองค์ประกอบทั้งการเมืองหลายฝักฝ่าย ปรัชญาเรื่องสงคราม ความเป็นมนุษย์ที่แย้งกับหน้าที่ทหาร ปรัชญาไซไฟเกี่ยวกับกฎ 3 ข้อของหุ่นยนต์ อารมณ์ที่ขัดแย้งกับเหตุผล ถูกเอามาเสนอผสมกันมันจึงกลายเป็น โกโก้ครันช์ รสรวม ๆ ที่ถ้าไม่ถูกปาก ก็เทชามคว่ำทิ้งถังได้เลย

สำหรับส่วนตัวมองว่าจุดแข็งของเรื่องก็อยู่ตรงเนื้อหาที่ว่ามานี่ล่ะ แต่ด้วยการเล่าให้ขมวดอยู่ในเวลาเกือบ 2 ชั่วโมงที่ถือว่ามากอยู่แล้ว แต่ก็ยังไม่มากพอที่จะเกลี่ยทุกอย่างให้กลมกล่อม จึงกลายเป็นปัญหาที่ผู้ชมต้องคิดตามหนัก ๆ และมองข้ามรูรั่วของความสมจริงต่าง ๆ ไป เช่นเรื่องทำไมให้แอนดรอยด์มาเป็นระดับผู้บังคับบัญชามนุษย์ได้? ถึงจะเพื่อเอามาสร้างปัญหาย้อนแย้งว่าใครสั่งใครในเรื่อง แต่โดยหลักการมันก็ไม่ควรต้องมีปัญหานี้แต่แรกแล้วไหมในทางปฏิบัติจริง