🎁🎀คลิปตัวอย่าง 🐍 สเนคอายส์ (Snake Eyes)
- เรื่อง Snake Eyes
ประเภท Action/Adventure/Crime
ผู้กำกับ Robert Schwentke
ความยาว 2h 1m
ปีที่ฉาย 2021
IMDB 5.4/10
🎁🎀 รีวิวภาพยนต์ 🐍 สเนคอายส์ (Snake Eyes)
ถึงแม้ว่าจะน่าเสียดายที่ในบ้านเราไม่มีโอกาสได้ดูหนังเรื่องนี้บนจอใหญ่ๆ ในโรงภาพยนตร์ แต่ก็ไม่เป็นไร…เพราะวันนี้ “Snake Eyes” ได้ฤกษ์บุกมาพรีเมียร์ฉายให้ชาวทรูไอดีได้เติมเต็มความมันส์ระห่ำกันแล้ว กับหนังภาคแยกที่เป็นต้นกำเนิดของนักฆ่าหนุ่มมาดขรึมที่ทุกคนรู้จักเขาดีในฐานะสมาชิกทีม G.I. Joe อันเลื่องชื่อ และนี่คือการขยายเจาะลึกเรื่องราวที่มาของชายหนุ่มผู้นี้…
Snake Eyesเขาเป็นชายหนุ่มที่อยู่อย่างสันโดษ โดยมีความมุ่งมั่นและได้รับการต้อนรับเข้ากลุ่มนักสู้ญี่ปุ่นโบราณที่เรียกว่า ‘อาราชิคาเกะ’ หลังจากช่วยชีวิตทายาทของพวกเขาไว้ อาราชิคาเกะได้สอน สเนคอายส์ ให้รู้ถึงวิถีของนักรบนินจา ในขณะเดียวกันก็จัดหาสิ่งที่เขาใฝ่ฝันหา นั่นก็คือ บ้าน แต่เมื่อความลับจากอดีตถูกเปิดเผย เกียรติยศและความจงรักภักดีของ สเนคอายส์ จะถูกทดสอบ แม้ว่านั่นจะหมายถึงการสูญเสียความไว้วางใจจากผู้ที่ใกล้ชิดกับเขาที่สุด
หากจะว่าจากสัตย์จริงนั้น Snake Eyes ก็ยังถือว่าเป็นหนังแอคชั่นสไตล์แนวซูเปอร์ฮีโร่ที่มาพร้อมกับลูกเล่นและลูกไม้เดิมๆ ที่ไม่ได้ก่อให้เกิดความรู้สึก “ว้าววว!” อะไรขึ้นมาได้สักเท่าไหร่ แต่กระนั้นตัวหนังโดยรวมก็ถือว่าเป็นหนังที่ดูได้เพลินๆ สนุกได้ด้วยสูตรสำเร็จในตัวของมันเอง แต่หากจะหาแก่นแท้หรือดูเพื่อวิจารณ์แล้วละก็…หนังเรื่องนี้มีอะไรให้ฟาดหลายๆ จุดอยู่ไม่น้อย
หนึ่งในความรู้สึกที่เกิดขึ้นระหว่างดู Snake Eyes ก็คือ หนังก็คงมีความอ่อนบางเกี่ยวกับโครงเรื่องที่ไม่ได้ทำให้ตัวหนังทั้งเรื่องแข็งแกร่งขึ้นสักเท่าไหร่ เป็นสูตรเดิมๆ ที่เคยรู้สึกกับพวกหนังตระกูล G.I. Joe ที่เคยสร้างออกมาก่อนหน้านี้ หนังยังเต็มไปด้วยความเชย ลูกเล่นเดิมๆ ที่คาดเด่นไม่อยาก การดำเนินไปตามสูตรเดิมนั้นกลับไม่ได้สร้างความตื่นเต้นให้กับคนดูได้มากนัก
งานออกแบบดีไซน์ฉากต่างๆ มีทั้งประดิษฐ์ประดอยเกินเหตุและออกมาได้น่าพอใจปะปนกันไป ไม่ถึงกับย่ำแย่อะไร แต่ก็ยังไม่ใช่องค์ประกอบที่ดีที่สุด หนึ่งในสิ่งที่หนังทำได้ค่อนข้างบกพร่องไปสักหน่อยก็คือการใช้ตัวละครที่ไม่คุ้มค่า หนังมีคาแรกเตอร์ต่างๆ ที่ปูเอาไว้ได้น่าสนใจ แต่กลับไม่ได้เลือกใช้ออกมาได้เป็นประโยชน์เท่าที่ควร เพราะแค่เอาเวลาไปโฟกัสกับตัวละครหลักก็แทบจะหมดเวลาแล้ว
“เฮนรี่ โกลดิง” มารับบทเป็นสเนคอายส์ ที่ยังไม่ได้ทำให้รู้สึกอินกับบทบาทนี้ของเขามาสักเท่าไหร่ แม้ว่าเขาจะสามารถแบกรับตัวหนังเอาไว้ทั้งเรื่องได้สบายๆ แต่ยังรู้สึกไม่ผูกพันกับคาแรกเตอร์ที่เขาสวมไว้อยู่ตลอดทั้งเรื่อง อินเนอร์ยังไม่พอ และบทหนังก็ยังตื้นเขินอยู่ เหมือนหนังก็แอบใส่เกียร์ยั้งเอาไว้ เพื่อไปสู่ภาคต่อที่ได้ปูทางเอาไว้ หากได้มีโอกาสได้ไปต่อ (แต่พิจารณาจากสถานการณ์แล้วก็น่าจะเป็นไปได้ยากอยู่)
หนังยังมี “แอนดรูว์ โคจิ” ที่มารับบทเป็น ทอมมี่ หรืออนาคตก็คือ สตอร์ม แชโดว์ เป็นอีกหนึ่งคาแรกเตอร์ที่หนังให้ความสำคัญเกือบๆ เท่ากับ สเนคอายส์ แต่ก็เหมือนใส่เกียร์ยั้งเอาไว้เช่นกัน เพราะเหมือนยั้งเอาไว้เพื่อปูไปสู่ภาคใหม่ ในขณะที่ “ฮารุกะ อาเบะ”, “เออร์ซูลา คอร์เบโร“, “ซามาร่า วีฟวิ่ง” หรือ “อิโก อูไวส์” มาเป็นตัวละครสมทบ ที่แทบไม่มีอะไรน่าจดจำเลย
แต่ก็เอาเป็นว่า Snake Eyes เป็นหนังที่ช่วยขยายปมและเรื่องราวที่ไปที่มาของบุุรุษคนนี้ได้ค่อนข้างพอใช้ได้ แม้จะยังห่างไกลจากความสมบูรณ์แบบ ส่วนประกอบต่างๆ ก็เหมือนพวกเขาหนังแอคชั่นฮีโร่ช่วงยุคปี 2000 ต้นๆ เคยนิยมมาก่อน หนังยังขาดมิติความน่าหลงใจ และใส่สูตรสำเร็จเดิมๆ ที่ดูได้สนุก แต่ยังไม่ค่อยมีอะไรให้น่าจดจำ ก็นับว่าเป็นหนังที่ดูได้เพลินๆ ไม่เสียดายเงิน คอหนังแอคชั่นก็น่าจะชอบอยู่พอประมาณ