A Man of Action

เรื่องย่อ A Man of Action ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริงของ Lucio Urtubia (รับบทโดย Juan José Ballesta นักอนาธิปไตยชาวสเปนที่ได้อพยพไปอยู่ในประเทศฝรั่งเศส โดยในภาพยนตร์จะเล่าถึงชีวประวัติของเขาตั้งแต่เด็กไปจนถึงช่วงหลังของชีวิตเขา จากชายที่เริ่มต้นมาจากการเป็นกรรมกรก่อสร้างใช้แรงงาน และเริ่มแอบผันตัวไปออกปล้นธนาคาร เพื่อนำเงินเหล่านั้นมาแจกจ่ายให้กับเหล่าคนในสังคมชนชั้นล่าง ต้องอธิบายก่อนว่าเขาเป็นคนที่มีความคิดแบบอนาธิปไตย หรือก็คือ คนที่ไม่ฟังคำสั่งใคร มนุษย์ทุกคนเท่าเทียม ไม่มีศาสนา และเกลียดพวกทุนนิยม หากคุณอยากรู้ว่าชีวิตอันโลดโผนของชายคนนี้เป็นอย่างไรนั้นทุกคนต้องไปรับชมด้วยตาตัวเอง รีวิวหนัง A Man of Action สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ความรู้สึกแรกหลังดูจบสำหรับผมถือว่าดีอยู่พอสมควร แต่ไม่ได้ดีมากจนน่าจดจำและอยากดูซ้ำ เรื่องราวในหนังจะเล่าตั้งแต่ต้นเลย เพียงแต่ไม่ได้ไปลงรายละเอียดในช่วงตอนเด็กมากเท่าไหร่ แค่ให้เราได้รู้ว่าเขามีพี่สาว 1 คน และพี่ของเขาตัดสินใจไปทำงานที่ฝรั่งเศส ส่วนตัวเขาก็ต้องไปเกณฑ์ทหารนานถึง 10 ปี จากนั้นตัวหนังก็สคริปต์ข้ามไปตอนเขาออกจากทหารมาแล้วเดินทางไปฝรั่งเศส เมื่อไปถึงเขาก็ไปทำงานเป็นกรรมกรใช้แรงงาน อธิบายง่ายๆ ก็คือ คนงานก่อสร้าง แต่ทว่าคนงานก่อสร้างคนนี้นั้นไม่เหมือนใครเพราะเขาเป็นคนฉลาดและมีอุดมการณ์ เมื่ออยู่ได้สักพักเขาก็เริ่มรวบรวมพรรคพวกและออกปล้นธนาคาร สิ่งที่ชอบเลยคือช่วงแรกๆ ที่หนังให้เราได้เห็นว่าตัวของพระเอกนี่ไม่ใช่คนไม่ดีอะไรเลย เพราะเราจะเห็นตั้งแต่ในตอนเด็กที่เขาไปปล้นธนาคารแล้วฉี่แตกอ่านต่อ

Killing Romance

เรื่องย่อ Killing Romance เปิดเรื่องด้วยคุณยายฝรั่งนักเล่านิทานแฟรี่เทลแบบที่คุ้นเคย บรรยายถึงเรื่องราวของตัวเอกของหนังสือเรื่อง The Killing Romance ซึ่งเป็นดาราสาวคนดังของดินแดนสุดฟากตะวันออก คือ ฮวังยอแร (รับบทโดย อีฮานี) ผู้งดงามและโด่งดังระดับสร้างฟีเวอร์ได้ด้วยงานโฆษณาสินค้าฮิตติดปากหลาย ๆ ชิ้น เธอมีแฟนคลับเหนียวแน่น แต่แล้ววันหนึ่งที่เธอเกิดเหนื่อยล้าหมดไฟ เพราะผลงานล่าสุดถูกสับเละว่าแสดงห่วย เธอจึงบินไปหลบพักกายพักใจที่เกาะสวยงามแห่งหนึ่งกลางมหาสมุทรแปซิฟิคใต้ที่เธอเฝ้าถวิลหา รีวิวหนัง Killing Romance ที่เกาะนั้น เธอได้บังเอิญเจอกับอภิมหาเศรษฐีหนุ่ม โจนาธาน (รับบทโดย อีซอนคยุน) ปรากฏตัวมาในมาดพระเอก ช่วยเธอจากเหล่าอันธพาลฉกทรัพย์ เขาเป็นเจ้าพ่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ยักษ์ ทั้งคู่ตกหลุมรักกันทันทีและแต่งงานอยู่ที่นั่น เขาจึงเป็นเหมือนเจ้าชายขี่ม้าขาวผู้เนรมิตชีวิตลัคกี้ ให้ฮวังยอแรกลายเป็นเจ้าหญิงซินเดอเรลล่าไปในพริบตา เจ็ดปีผ่านไป โจนาธาน และ ฮวังยอแร บินมาเกาหลีชั่วคราวด้วยเรื่องธุรกิจ เราจึงได้รู้ว่า ชีวิตเจ้าหญิงเว่อร์วังรวยอลังของฮวังยอแรนั้นก็เป็นเพียงตุ๊กตาสวย ๆ ประดับหน้าตาให้โจนาธานในงานเลี้ยง เธอถูกคุมเข้มเรื่องน้ำหนัก (ทำได้แค่มองอาหาร) ต้องยืนสง่า (อย่างอ้างว้าง) ฉีกยิ้มค้างร่วมซีนโฟโต้กับแขก (เหมือนเป็นหุ่นยนต์) เหตุก็เพราะว่าอ่านต่อ

Beyond Evil

เรื่องย่อ Beyond Evil เรื่องเกิดขึ้นที่ชุมชนเล็กๆที่ชื่อว่ามันยาง ชุมชนที่ผู้คนแทบจะรู้จักกันหมด เรื่องราวที่ซับซ้อนนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2000 เมื่อมีการพบศพหญิงสาวถูกฆาตกรรมแล้วทิ้งไว้กลางทุ่งอ้อที่เปลี่ยวร้างและศพได้ถูกตัดปลายนิ้วทั้งสิบนิ้วออกไป อีกทางหนึ่งก็มีอีกหนึ่งหญิงสาวที่หายไปคืออียูยอง (มุนจียอน) และที่น่าสะพรึงกว่าคือปลายนิ้วทั้งสิบของเธอถูกวางไว้หน้าบ้านตอนเช้าตรู่ และด้วยหลักฐานบางอย่างทำให้ผู้ต้องสงสัยในคดีสะเทือนขวัญคนทั้งเมืองนี้คือพี่ชายฝาแฝดของอียูยองคืออีดงชิก (อีโดฮยอน) ยี่สิบปีให้หลังอีดงชิก (ชินฮาคยุน)กลายมาเป็นตำรวจในสถานีตำรวจย่อยมันยาง และการมาของตำรวจหนุ่มไฟแรงอย่างสารวัตรฮันจูวอน (ยอจินกู)ก็ทำให้ทั้งเมืองต้องสั่นสะเทือนรวมถึงอีดงชิก เมื่อเรื่องเปิดหน้าท้าดวลเลยว่าฮันจูวอนสงสัยว่าคดีที่เกิดขึ้นในมันยางเมื่อยี่สิบปีก่อนนั้น อีดงชิกก็คือฆาตกรที่หลุดพ้นจากกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ และมีจุดมุ่งหมายจะจับให้มั่นคั้นให้ตาย แต่ทว่ากำแพงที่หนุนอีดงชิกอยู่คือสมาชิกในชุมชนที่รู้ว่าแท้จริงแล้วอีดงชิกเป็นคนเช่นไร แต่การพบศพหญิงปริศนาในทุ่งอ้ออีกครั้งก็ทำให้สองคู่หูคู่อาฆาตต่างวัยยิ่งเหม็นหน้ากันหนักเข้าไปอีกเมื่อทั้งสองฝ่ายเริ่มสงสัยกันและกัน รีวิวซีรีส์ Beyond Evil ถ้านั่นยังไม่พอเรื่องยังพาให้เห็นความน่าสงสัยของคนทั้งสองคนแต่หนักไปทางอีดงชิกมากกว่า กระทั่งเหตุการณ์เลวร้ายเกิดขึ้นกับคนใกล้ตัวอีดงชิกอีกครั้ง เมื่อเด็กสาวที่เขารักไม่ต่างจากลูกหายไปพบเพียงปลายนิ้วสิบนิ้ววางอยู่หน้าบ้านของเหยื่อ แน่นอนว่าเบาะแสทุกทางมุ่งตรงไปยังอีดงชิกชายผู้ถูกประณามหยามเหยียดว่าเป็นฆาตกร เป็นคนฆ่าน้องสาวตัวเองมาตลอด ชายผู้ต้องทุกข์ทรมานมานานกว่ายี่สิบปี แล้วคดีการหายไปของหญิงสาวนางหนึ่งก็ได้เป็นไม้ขีดไฟที่ถูกจุดให้เริ่มมองเห็นความเกี่ยวพันกันระหว่างปัจจุบันกับอดีต เมื่อเรื่องราวที่พัวพันกันเป็นร่างแหมันก็ต้องแก้ เมื่อแก้ไม่ได้ก็ใช้กรรไกรตัดมันเลย ด้วยบทที่ไม่มีจุดบอดหรือรูโหว่ บทที่มอบอารมณ์ของปลาที่ฮุบเหยื่อตัวเดิมของนักตกปลาคนเดิม โดยไม่ได้ฉุกคิดว่านั่นคือการเล่นกับสมองของเจ้าปลา ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ผู้ชมมักจะได้เห็นจากงานซีรีส์สืบสวนที่ขายความซับซ้อนซ่อนเงื่อนที่เป็นซีรีส์ขนาดยาว นั่นคือพลังที่อาจจะไม่แรงไปได้ตลอดทาง หรือมีบ้างที่เผยปมแรกหรือสองแล้วพลังตกแต่ไม่ใช่กับเรื่องนี้ ด้วยการเล่นกับสมองและความคิดผู้ชมทั้งหนักทั้งหน่วง เพราะนี่คือความพลิกผันไปมาในระดับยอดเยี่ยมในการชี้นำให้สงสัย การล่อหลอกอย่างมีชั้นเชิงต้อนให้จนมุม มอบความเห็นใจปนกับความกังขาในตัวของอีดงชิก อารมณ์แรกคือความเห็นใจสงสารและเชื่อมั่น แต่บทก็ยังนำพาความน่ากังขามาประเคนให้อยู่เรื่อยจนแม้จะเชื่อใจแต่ก็รู้สึกบางอย่างติดอยู่ ถ้านั่นยังไม่พอความน่าสงสัยนั้นก็ยังจัดเต็มด้วยความที่มองหน้าใครก็น่าสงสัยไปหมด มอบความรู้สึกไว้ใจใครไม่ได้แม้แต่คนเดียว และมันคือการชี้นำให้คิดและคาดเดา แล้วเมื่อถึงเวลาก็ให้รางวัลกับผู้ชมได้อ่านต่อ

Believer 2

เรื่องย่อ Believer 2 เล่าเรื่องราวของ “โจวอนโฮ” (โจจินอุง) นักสืบหนุ่มที่ยังคงทำภารกิจตามล่าหาองค์กรค้ายาระดับประเทศที่นำทัพด้วย “ท่านอี” บอสใหญ่สุดลึกลับที่ไม่เคยมีใครรู้ตัวตนมาก่อน และการสะสางปัญหาเบื้องลึกภายในใจ จนนำพาเขาไปเจอกับ “Big Knife” (ฮันฮโยจู) สาวชาวจีนสุดอำมหิต ที่ขึ้นชื่อมือขวาของท่านอี รีวิวหนัง Believer 2 และนี่คือภาคต่อของหนังแอคชันสุดระห่ำและดิบเถื่อนอีกเรื่องจากฝั่งเกาหลี กลับมาในครั้งนี้ก็ยังพกความเดือดดาลแบบทวีคูณมาด้วย นี่คือ “Believer 2” สานต่อความปังกับเกมการไล่ล่าวงการยาเสพติดระดับภูมิภาคเอเชีย จากหนังฮิตถล่มบ็อกซ์ออฟฟิศกลายมาเป็นหนังฟอร์มใหญ่ลงจอสตรีมมิงที่คับคั่งไปด้วยทีมนักแสดงระดับเอ-ลิสต์ของเกาหลีใต้เลยทีเดียว โดยในหนังภาคนี้มีความเปลี่ยนแปลงในแง่ทีมงานผู้สร้างอยู่เหมือนกัน เพราะได้ “แพคจงยอล” จากหนังดัง The Beauty Inside มานั่งเก้าอี้ผู้กำกับดูแลงานสร้างภาคนี้แทน แม้ว่าประสบการณ์ของเขาจะยังไม่มากอะไร แต่ก็มักจะได้รับความไว้วางใจในการดูแลโปรเจกต์หนังใหญ่ ๆ อยู่เสมอ และก็ดูเหมือนว่าเรื่องนี้เขาก็เอามันได้อยู่เหมือนกัน กับสเกลหนังที่ดูใหญ่ขึ้น แม้ว่าจะไม่ใช่หนังฉายโรง แต่เพราะได้ทุนสร้างที่เพิ่มขึ้น อะไร ๆ ก็ก็ช่ำชองขึ้น ส่วนใครที่เป็นกังวลว่า..ยังไม่เคยมีประสบการณ์ดูหนังภาคแรกของเรื่องนี้มาก่อน แล้วมาเริ่มดูภาคต่อเลยจะรู้เรื่องหรือไม่ ก็คงจะต้องบอกว่าดูรู้เรื่องอยู่ เพราะในช่วง 3-4อ่านต่อ

TIN & TINA

เรื่องย่อ TIN & TINA หลังจากแท้งบุตรอย่างน่าเศร้า สองสามีภรรยาจึงได้รับเลี้ยง สองแฝดเผือกชายหญิงที่กำพร้ามาจากโบสถ์ เด็กทั้งสองผ่านการศึกษาแบบเคร่งศาสนามาตั้งแต่จำความได้ ซึ่งทำให้พวกเขาตีความพระคัมภีร์ไบเบิลแบบคำต่อคำและกลายเป็นปัญหาในการปรับตัวกับโลกภายนอก ผลงานสยองระทึกขวัญจากสเปนที่มีพลอตแบบ เด็กปีศาจ ที่มีเล่นกันมาหลายเรื่องและหลายสิบปีแล้ว แต่ก็มีความน่าสนใจในตัวเองที่พอจับต้องและโดดเด่นขึ้นมาในแนวทางใหม่ ๆ รีวิวหนัง TIN & TINA เป็นผลงานของผู้กำกับหน้าใหม่อย่าง รูบิน สไตน์ Rubin Stein ที่นิตยสารภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง Variety เคยจัดอันดับเป็น 1 ใน 10 นักสร้างหนังสเปนหน้าใหม่ที่น่าจับตามอง หลังจากผลงานชุดหนังสั้นแนวสยองขวัญภาพขาวดำของเขาถูกรับเลือกไปตระเวนฉายในหลายเทศกาลหนังทั่วโลก โดยเฉพาะ Tin & Tina 2013 ที่เป็นเรื่องแรกในชุด ก็ได้ถูกเลือกให้พัฒนามาเป็นหนังยาวเรื่องแรกของสไตน์ และหากประสบความสำเร็จก็อาจได้เห็นหนังยาวจากชุดหนังสั้นเรื่องที่เหลืออย่าง Nero’ 2017 และ Bailaora 2018 ตามมาก็ได้ Tin & Tina ฉบับหนังยาวนี้ได้ขยายเรื่องราวผ่านสายตาของคุณแม่ยังสาวอย่าง โลลาอ่านต่อ

Obsession

เรื่องย่อ Obsession บอกเล่าเรื่องราวของ ซีรีส์เร่าร้อน ระทึกใจ ผสมจิตวิทยา บอกเล่าเรื่องราวของครอบครัวหนึ่ง ที่ต้องพบกับจุดเปลี่ยน สุดสะเทือนใจ เมื่อพ่อตกหลุมความปรารถนาในใจ เป็นชู้กับแฟนสาวของลูกชาย นำแสดงโดย ริชาร์ด อาร์มิเทจ, ชาร์ลี เมอร์ฟี่ และ ริช ชาห์ ศัลยแพทย์ที่มีชีวิตสมบูรณ์แบบ กระทั่งวันหนึ่ง เขาได้พบกับ แอนนา ชาร์ลี เมอร์ฟี่ แฟนสาวคนใหม่ของลูกชาย ทั้งคู่เกิดความปรารถนาในตัวกันและกัน ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ ก่อเกิดเป็นตัณหาร้อนแรง ที่ยากจะหยุดยั้งไว้ได้ การนอกใจของทั้งคู่ ส่งผลให้เกิดโศกนาฏกรรมที่ไม่คาดฝัน บ่วงราคะครั้งนี้ จะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งในชีวิตไปตลอดกาล รีวิวซีรีส์ Obsession ซีรีส์เดินเรื่องรวดเร็ว ดูง่าย แบบไม่ซับซ้อน เริ่มต้นจากการพาไปดูชีวิตที่ดูสมบูรณ์แบบของ วิลเลียม พ่อและสามีที่ดีของครอบครัว เขาใช้ชีวิตในกรอบ ทุ่มเทให้กับการทำงาน จนได้รับเสียงชื่นชม จากคนรอบข้าง แถมพ่อตายังสนับสนุน ให้เขามีตำแหน่งในแพทยสภาแม้ว่าภายในใจของเขาไม่ได้สนใจในตำแหน่งนั้นเลยก็ตาม เราจะเห็นว่าชีวิตของเขาช่างไร้สีสันขาดความตื่นเต้น และทุกอย่างดำเนินไปอย่างเรื่อยๆอ่านต่อ

Venom: Let There Be Carnage

เรื่องย่อ Venom: Let There Be Carnage เล่าเรื่องราวสานต่อจากภาคที่แล้ว เอ็ดดี้ บร็อก พยายามจุดประกายไฟให้กับอาชีพสื่อมวลชนของเขา ด้วยการดั้นด้นเข้าไปสัมภาษณ์ฆาตกรต่อเนื่องผู้เลื่องชื่อ เคลตัส คาซาดี้ ชายผู้ที่กลายมาเป็นร่างอวตารให้กับ คาร์เนจ สิ่งมีชีวิตจากต่างดาวที่แอบลักลอบเข้ามาแฝงตัวอยู่บนโลกใบนี้ และเรื่องไม่คาดฝันก็ได้เกิดขึ้น เมื่อเคสตัสได้ก่อเหตุแหกคุก หลังจากที่การรับโทษประหารชีวิตของเขาล้มเหลว รีวิวหนัง Venom: Let There Be Carnage มาในภาคนี้ได้เจ้าพ่อหนังซีจี “แอนดี้ เซอร์กิส” นักแสดงหนุ่มที่เราคุ้นเคยเขาเป็นอย่างดีในบท ‘กอลัม’ มานั่งเก้าอี้เป็นผู้กำกับหนังเรื่องนี้ให้ แน่นอนว่ามุมมองและวิสัยทัศน์ของเขาที่ถ่ายทอดออกมาในหนังเรื่องนี้นั้น ค่อนข้างทำออกมาได้ดี การออกแบบแต่ละฉากดูน่าตื่นตา โดยเฉพาะฉากต่อสู้ไคลแม็กซ์ของเรื่องนี้ที่แม้จะเป็นสเกลการอิมแพคแบบไม่ใหญ่มาก แต่ก็ทรงพลังไม่เบาเลยทีเดียว แต่กระนั้น Venom: Let There Be Carnage ก็ยังเต็มไปด้วยจังหวะจะโทนที่่ค่อนข้างกระอักกระอ่วนไปตลอดทาง หนังดูมีความพยายามเกินตัวไปในหลายจุด พยายามที่จะขึงขังดุดัน พยายามที่จะขบขันด้วยมุกตลก พยายามซีเรียสกับอาชญากรรม พยายามสร้างความหลากหลายกับกลิ่นความวาย ความตั้งใจพยายามที่ล้นเกินไปของหนังเรื่องนี้ ได้กลายมาเป็นดาบสองคมอ่านต่อ

Fatal Seduction

เรื่องย่อ Fatal Seduction เป็นเรื่องราวของ นานดิ อาจารย์สาวใหญ่ที่สอนอยู่ที่มหาวิทยาลัย ได้ออกไปปล่อยตัวปล่อยใจกับเพื่อนสาวในทริปช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ก่อนที่เธอจะได้พบกับหนุ่มทรงเสน่ห์ ที่อายุรุ่นราวคราวลูกของเธอ และแรงปรารถนาและความใคร่ได้นำพาไปสู่ความสัมพันธ์ลึกซึ้งที่เกินกว่าคาดขึ้น ที่กลายเป็นจุดเริ่มต้นของเโศกนาฏกรรมของความจริงที่แอบซ่อนอยู่ในตัวเด็กหนุ่มคนนั้น รีวิวซีรีส์ Fatal Seduction ความคิดแรกที่ผุดขึ้นมาระหว่างดูซีรีส์เรื่องนี้ก็คือ “มันมาอีกแล้ว..!” ดูเหมือนจะกลายเป็นพล็อตที่ซ้ำซากจำเจสุด ๆ ที่จะขาดไปไม่ได้เลยในวงการสตรีมมิ่งยุคนี้ เพราะในเมื่อเนื้อหาฉาว ๆ อีโรติกมันขายได้เสมอ ทำให้หนังกับซีรีส์ประเภทนี้ยังมีจุดยืนออกมาได้เสมอ เช่นเดียวกับ Fatal Seduction ที่ในส่วนของบทละครแทบไม่มีอะไรเลย เนื้อหาน่าจะมีอยู่แค่หยิบมือเดียว แต่ดันเอามาเกลี่ยและแผ่ขยายออกมาเป็นซีรีส์เรื่องยาว ต้องขอโทษจริง ๆ ที่ตอนแรกคิดว่า Fatal Seduction น่าจะมีแค่ 7 ตอน..แล้วจบ แต่กลายเป็นว่าที่ดูไปเป็นแค่ครึ่งแรกเท่านั้น นี่คือซีรีส์จำนวน 14 ตอน ที่กลับมองว่าเกินความจำเป็นมาก ๆ เพราะหากนำเนื้อหามาสร้างเป็นหนังสัก 2 ชั่วโมงจบ ก็น่าจะเพียงพอแล้ว แต่เมื่อผ่านไปครึ่งทางกลับพบว่าซีรีส์ค่อนข้างขับเคลื่อนไปแบบช้า ๆ แก่นสารของบทแทบไม่มีอะไรอ่านต่อ

YOU​ Season 4

เรื่องย่อ YOU​ Season 4 ซีรีส์แนวโรแมนติกระทึกขวัญที่จะทำให้คุณระมัดระวังในการใช้โซเชียลมากขึ้นกว่าเดิม โซเชียลมีเดียเป็นสิ่งที่ทุกคนมีติดตัวกันอย่างแน่นอนอย่างน้อยก็ 1 บัญชีไม่ว่าจะเป็น INSTAGRAM FACEBOOK หรือ TWITTER วิถีชีวิตของเราที่ถูกเชื่อมโยงเข้ากับอินเทอร์เน็ตทำให้เรานั้นสามารถแบ่งปันสิ่งต่างๆ ในชีวิตได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย อาหารที่เราชอบกิน สถานที่ที่เราชอบไป งานที่เราทำ งานอดิเรกที่เราชื่นชอบ เพื่อนของเรา คนรักของเรา ทุกคนสามารถสำรวจสิ่งเหล่านี้ได้เพียงแค่ปลายนิ้วเท่านั้น รีวิวซีรีส์ YOU​ Season 4 กลายเป็นว่าความเป็นส่วนตัวเป็นสิ่งที่หาได้ยากในยุคปัจจุบันโดยเฉพาะหากคุณเป็นคนที่ติดเล่นโซเชียลด้วยแล้ว การได้แบ่งปันกับคนอื่นว่าเรานั้นเป็นคนอย่างไรหรือมีความชื่นชอบอะไรฟังดูเหมือนเป็นเรื่องที่ดีแต่ในขณะเดียวกันมันก็อันตรายไม่น้อยเลยทีเดียว อย่างเช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในซีรีส์ที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้นั่นก็คือ YOU ซีรีส์แนวโรแมนติกระทึกขวัญที่จะทำให้คุณนั้นรู้สึกว่าต้องระมัดระวังในการใช้โซเชียลมากขึ้นกว่าเดิม เพราะข้อมูลที่คุณลงบนโซเชียลอย่างสมัครใจอาจกลายมาเป็นเครื่องมือของคนที่ไม่ปกตินำมาใช้ในการเข้าหาคุณก็ได้เช่นเดียวกัน ซีรีส์จะเล่าถึงเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งที่มีชื่อว่าเบ็ค เธอนั้นเป็นหญิงสาวธรรมดาทั่วไปที่ใช้โซเชียลมีเดียบอกเรื่องราวชีวิตของเธอให้กับทุกคนได้รับรู้ทุกอย่าง เธอไม่ได้ระมัดระวังตัวแม้แต่ในเวลาที่เข้ารหัสก็ตามที และเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็ได้เกิดขึ้นเมื่อโจผู้จัดการร้านหนังสือในกรุงนิวยอร์กได้พบกับเธอเข้าและตกหลุมรักเธอในทันที มันไม่ใช่การตกหลุมรักธรรมดาทั่วไปแต่มันเป็นความรู้สึกลุ่มหลงและอยากจะเก็บเธอไว้เพียงคนเดียว เขานั้นสืบประวัติเธอรวมไปถึงคนรอบข้างจากโซเชียลมีเดียและใช้เล่ห์กลเข้าหาเธอทีละเล็กทีละน้อยจนสามารถจัดฉากจนสุดท้ายเขาก็ได้เธอมาเป็นแฟนสำเร็จแม้ว่าก่อนหน้านี้เธอจะมีคนรักมาก่อนแล้วก็ตาม แต่ยิ่งนานวันเพื่อนของเบ็คก็ยิ่งสังเกตเห็นความผิดปกติในตัวของโจและสงสัยมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะพีชเพื่อนไฮโซที่ไม่ยอมแบ่งเพื่อนของตนเองให้กับใคร ด้วยเหตุนี้โจจึงต้องพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้เบ็คเป็นของเขาคนเดียวแม้ว่าจะต้องลงมือทำเรื่องเลวร้ายหรือแม้แต่ก่อเหตุฆาตกรรมใครก็ตามที่มาขวางหน้า เป็นซีรีส์ที่สามารถสะท้อนสังคมในยุคปัจจุบันได้ดีที่ในตอนนี้ทุกคนต่างแบ่งปันเรื่องราวส่วนตัวของตนเองลงบนโลกโซเชียลจนแทบจะไม่มีอะไรเป็นส่วนตัวอยู่แล้ว การไม่ระมัดระวังตัวเองบนโลกอินเตอร์เน็ตอาจนำพามาซึ่งความอันตรายที่เราไม่คาดฝันก็ได้เช่นเดียวกัน ถือว่าเป็นการเล่าเรื่องราวที่ถูกต้องหากมองในมุมที่ว่าโจนั้นเป็นผู้ชายอันตรายที่โรคจิตและไม่มีอะไรดีไปมากกว่าหน้าตาที่หล่อเหลาเท่านั้น ซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้โรแมนติกไซส์ความโรคจิตของเขาหรือแม้แต่ความรักที่เกินขอบเขตของเขาเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นหากรับชมไปสักพักหนึ่งแล้วเรารู้สึกว่าพระเอกช่างเป็นโรคจิตที่ไร้เสน่ห์เหลือทนจนแทบจะไม่สามารถรับชมต่อได้ก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว เพราะหากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับเราจริงๆ โดยที่เรารับรู้ทุกอย่างเราก็คงรู้สึกแบบนั้นกับผู้ชายคนนั้นเช่นเดียวกัน ข้อมูลเกี่ยวกับซีรีส์ ชื่อเรื่อง :อ่านต่อ

Burn the House Down

เรื่องย่อ Burn the House Down บอกเล่าเรื่องราวของ แม่ของอันซึ (รับบทโดย เมอิ นากาโนะ) ตกเป็นจำเลยในเหตุเพลิงไหม้เมื่อ 13 ปีก่อน ที่มีสาเหตุมาจากลืมปิดเตาแก๊สในครัวบ้านตัวเอง แม้จะไม่มีใครบาดเจ็บล้มตาย แต่หลังจากนั้นสามีก็หย่ากับเธอ แถมเธอยังคิดโทษตัวเองเจ็บปวดจนล้มป่วยเป็นโรคความจำเสื่อมโดยสมบูรณ์ ทำให้อันซึวางแผนแก้แค้นเมียใหม่ของพ่อ มากิโกะ (รับบทโดย เคียวกะ ซูซูกิ) ซึ่งเป็นเพื่อนเก่าของแม่ ที่เธอคาดว่าเป็นมือวางเพลิงตัวจริง อันซึจึงปลอมตัวเป็นแม่บ้านเพื่อเข้าไปค้นหาหลักฐาน ทำให้เธอพบความลับในบ้านนั้นมากมาย เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามต่อได้ทาง Netflix รีวิวซีรีส์ Burn the House Down ซีรีส์แนวล้างแค้นสัญชาติญี่ปุ่นที่รับชมได้บน NETFLIX เมื่อพูดถึงเรื่องราวการล้างแค้นมันเป็นอะไรที่สร้างความสนุกสนานและความสะใจให้กับผู้รับชมได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว เพราะในช่วงเริ่มต้นซีรีส์จะพาเราไปรับชมความยากลำบากและความทุกข์ทรมานของชีวิตเหยื่อ หลังจากที่เหยื่อสามารถเอาชีวิตรอดมาได้ก็จะเข้าสู่การแก้แค้นที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานจนทำให้ผู้รับชมอย่างเรามีอารมณ์ร่วมได้เป็นอย่างดี รู้สึกเอาใจช่วยและสะใจทุกครั้งที่เหยื่อสามารถแก้แค้นได้สำเร็จ หากคุณชื่นชอบซีรีส์แนวล้างแค้นเราขอแนะนำซีรีส์เรื่อง BURN THE HOUSE DOWN ซีรีส์สัญชาติญี่ปุ่นบน NETFLIX ที่ได้นักเขียนชื่อดังอย่างโมยาชิ ฟูจิซาวะมาเป็นคนเขียนบท ดังนั้นเรื่องราวจึงเต็มไปด้วยความเข้มข้นและปริศนาที่สลับซับซ้อนจนทำให้คุณหยุดรับชมไม่ได้อย่างแน่นอนอ่านต่อ