มาสานต่อกับหนังแอคชั่นระทึกขวัญภาคต่อ ที่น่าจะกลายเป็นอีกหนึ่งแฟรนไชส์หนังจากเกาหลี นี่คือ “The Witch: Part 2 – The Other One แม่มดสังหาร 2” ที่มาสานต่อเรื่องราวจากหนังภาคแรกเมื่อหลายปีก่อน ที่บางคนอาจจะลืมไปแล้ว นี่คือหนังที่ใส่ความเขย่าขวัญเข้ามากับฉากแอคชั่นชวนสยอง เป็นหนังที่เต็มไปด้วยรูปแบบของสูตรสำเร็จ แม้ว่าภาคนี้จะแอบรู้สึกได้ชัดเจนว่า…เสน่ห์ดั้งเดิมนั้นได้จางหายไป The Witch: Part 2 – The Other One เป็นเรื่องราวของเด็กสาวได้ตื่นขึ้นมาอยู่ในห้องทดลองขนาดใหญ่ เธอได้พยายามหลบหนีออกมาจากที่นั่น ทำให้ได้มาพบกับ คยองฮี ที่พยายามปกป้องเธอจากแก๊งอาชญากร แต่เมื่อเด็กสาวต้องเผชิญหน้ากับพวกมันด้วยตัวเองนั่น เธอสามารถเอาชนะได้ด้วยพละกำลังที่มหาศาลอย่างน่าทึ่ง ในขณะเดียวกันก็มีคนอีกกลุ่มหนึ่งตามไล่ล่าเด็กคนนี้อยู่เช่นกัน เธอผู้นี้เป็นใคร? แล้วทำไมถึงมีใครอยากได้ตัวเด็กสาวผู้นี้กันมากนัก? เรียกได้ว่ากลับมาสานต่ออีกครั้ง ที่เห็นได้ชัดเจนเลยว่าเป็นความพยายามที่จะยกระดับและปลุกปั้นสร้างเป็นแฟรนไชส์หนัง The Witch ขึ้นมาประดับวงการหนังเกาหลี หลังจากที่ภาคแรกออกฉายไปเมื่อปี 2018 และถือว่าทำกระแสตอบรับออกมาได้ค่อนข้างน่าพอใจดี กลับมาในครั้งนี้ก็ถือเป็นการเล่าเรื่องในอีกส่วนที่ขยายออกไป และดำเนินเรื่องต่อเนื่องจากภาคก่อนที่ปูเอาไว้ แม้ว่าผลลัพธ์ของความพยายามนั้นจะยังออกมาได้ยังไม่สุดทางสักเท่าไหร่ก็ตาม ผู้กำกับ “พัคฮุนจอง” จากภาคแรกยังคงกลับมาสานต่อเรื่องราวในพาร์ทนี้อีกครั้ง แน่นอนว่าเขารู้จักทิศทางและองค์ประกอบหลักของหนังเรื่องนี้เป็นอย่างดี ทำให้หนังยังสามารถคงคอนเซ็ปต์ดิบเถื่อนและโหดแบบไซไฟเอาไว้ได้ดีเช่นเดิมอ่านต่อ

Cracked (2022) ภาพหวาด

Cracked (2022) ภาพหวาด นี่คือผลงานที่หนังผีแบบไทยที่คลุกเคล้างานสร้างระดับสากลที่ดูดีมากยิ่งขึ้น แม้ว่าองค์ประกอบต่างๆ โดยเฉพาะโครงเรื่องจะยังค่อนข้างต้องปรับปรุงอีกเยอะก็ตาม Cracked ภาพหวาด เป็นเรื่องราวของคอลเลคชั่นภาพวาดอาถรรพ์ที่ รุจา ได้รับมรดกจากจิตรกรผู้เป็นพ่อ เธอจะต้องรีบซ่อมแซมภาพเพื่อขายต่อ แล้วนำเงินมารักษาดวงตาลูกสาว ราเชล ให้ทัน โดยที่มี ทิม ศิลปินหนุ่มนักซ่อมภาพ (art restorer) เข้ามารับงานบูรณะภาพวาดนี้ ก่อนต้องตกเป็นหนึ่งในผู้ร่วมชะตากรรมกับแรงอาถรรพ์ที่ซ่อนเร้นอยู่ในภาพวาดไปพร้อมกับพวกเธอ นี่เป็นผลงานหนังใหญ่เรื่องราวของผู้กำกับหนุ่ม “ท็อป-สุรพงษ์ เพลินแสง” ที่เก็บประสบการณ์จากแวดวงงานโฆษณามาหลายปี เมื่อต้องมาหยิบจับงานสร้างที่ใหญ่ขึ้นและวางรากเรื่องราวให้มั่นคงยิ่งขึ้น ดูเหมือนว่างานสร้างของเขาจะยังทำออกมาได้ไม่ค่อยลื่นไหลสักเท่าไหร่นัก แต่กระนั้นก็ต้องยกนิ้วให้กับองค์ประกอบโปรดักชั่นดีไซน์ที่นำมาใช้ในการเล่าเรื่องของหนังเรื่องนี้ เพราะช่วยยกระดับหนังผีไทยให้ดูมีความเป็นสากลเพิ่มขึ้น กับมุมมองและมุมภาพที่ค่อนข้างได้เห็นสักเท่าไหร่จุดอ่อนหลักๆ ของ Cracked ภาพหวาด หนังหมดเวลาไปกับการเกริ่นเรื่องยาวไปเป็นชั่วโมง หลังจากนั้นจึงค่อยมาขมวดปมแบบสรุปรวบรัดที่เต็มไปด้วยความพยายามเกินไป การใช้ความพยายามในหนังเรื่องนี้กลายเป็นสิ่งที่บั่นทอนตัวหนังได้อย่างชัดเจน หนังพยายามจะฉีกทิศทางและเล่าเรื่องไปถึงจุดที่ควรจะพีคที่สุด แต่กระนั้นก็กลับกลายเป็นว่าหนังแทบจะไม่มีอะไรเป็นที่น่าจดใจได้สักเท่าไหร่ เป็นความสยองน่าขนลุกแบบประเดี๋ยวประด๋าว และไม่มีอะไรให้เก็บไปคิดต่อเมื่อออกมาจากโรงหนังเลย ส่วนอีกคนที่มองข้ามไม่ได้เลยก็คือ “น้องนีน่า-ณัฐชา เจสสิก้า พาโดวัน” นักแสดงเด็กลูกครึ่งที่โชว์ศักยภาพทางการแสดงได้อย่างน่าทึ่ง เกินกว่าที่ผู้ชมจะคาดคิด และจะไม่ประหลาดใจเลยที่น้องจะสามารถเข้าชิงรางวัลนักแสดงสมทบหญิงจากเรื่องนี้ไปได้อีกคน ในขณะที่ “นิชคุณ หรเวชกุล”อ่านต่อ

รีวิวหนัง The Desperate Hour ฝ่าวิกฤตวิ่งหนีตาย 🏃

 “The Desperate Hour” (ฝ่าวิกฤตวิ่งหนีตาย) หนังระทึกขวัญที่มีพร้อมกับกิมมิกการเล่าเรื่องในสไตล์สแตนอะโลนของนักแสดงนำเพียงหนึ่งเดียว เปรียบเสมือนพาผู้ชมขี่หลังวิ่งไปด้วยตลอดทั้งเรื่องกับสถานการณ์ที่บับคั้นขึ้นจับใจ The Desperate Hour เล่าเรื่องราว 84 นาทีสุดระทึก เมื่อ เอมี่ คาร์ กำลังวิ่งจ็อกกิ้งตอนเช้าในป่าลึก จู่ๆ เธอได้รับแจ้งข่าวร้ายว่าเกิดเหตุกราดยิงในโรงเรียนมัธยม ที่ โนอาร์ ลูกชายวัยรุ่นสุดที่รักของเธอเรียนอยู่ และกำลังอยู่ในอันตรายสุดๆ เธอจึงต้องออกวิ่งบนระยะทางห่างจากเมืองหลายไมล์ด้วยความวิตกกังวลขั้นสุดเพื่อช่วยเหลือลูกของเธอ โดยมีเพียงโทรศัพท์ที่ใกล้จะแบตหมดเป็นที่พึ่งสุดท้ายของเธอ ก็คงต้องบอกว่า The Desperate Hour เป็นหนังที่ดูได้สนุกไม่ยากเลย อีกทั้งสกิลขั้นเทพของ นาโอมิ วัตส์ ก็แทบไม่ต้องระแคะระคายใดๆ เลย เพราะเธอก็คือนักแสดงที่ยอดเยี่ยมและแบกรับหนังทั้งเรื่องนี้เอาไว้เพียงคนเดียวได้สบายๆ อยู่แล้ว มาดูในองค์ประกอบอื่นๆ ของหนังดีกว่า คงต้องชื่นชมสักหน่อยกับการเลือกวิธีเล่าเรื่องในสไตล์นี้ ที่เป็นการจดจ่ออยู่กับบุคคลเดียวในสถานการณ์คับขัน ที่การใช้วิธีนี้ค่อนข้างสุ่มเสี่ยง ไม่ปังก็คือพังไปเลย หนังแนวๆ นี้ที่เราเคยได้เห็นล่าสุดก็น่าจะเป็น “The Guilty” ที่ เจค จิลเลนฮาลล์ แสดงเอาไว้เมื่อปีที่แล้ว เรื่องนั้นก็ต้องยกความดีความชอบให้กับเจค ที่แสดงได้กัดกินใจในทุกส่วนประกอบอ่านต่อ

รีวิวหนัง Antlers สิงร่างกระชากวิญญาณ

 “Antlers” (สิงร่างกระชากวิญญาณ) หนังดราม่าลึกลับของผู้กำกับ “สก็อต คูเปอร์” (จาก Black Mass) ที่คราวนี้เลือกมาจับความลี้ลับและน่าสะพรึงกลัวเกี่ยวกับตำนานโบราณที่หาข้อพิสูจน์ไม่ได้ นำมาสู่หนังสัตว์ประหลาดสุดสยองที่ผู้ชมจะต้องสะพรึง! Antlers สิงร่างกระชากวิญญาณ เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเมืองชนบทเล็กๆ ในรัฐออริกอน แฟรงก์ ได้ลักลอบผลิตยาเสพติดอยู่ในเหมืองร้าง ในขณะที่เขาปล่อยให้ลูกชายคนเล็ก เอเดน รออยู่บนรถข้างนอกโรงงาน แต่ปรากฏว่าเขาต้องเผชิญหน้าและถูกจู่โจมจากบางสิ่งลึกลับ ผ่านมาหลายเดือน ลูคัส ลูกชายคนโตของเขายังไปโรงเรียนตามปกติ แต่พฤติกรรมของเขาเปลี่ยนไป และกลายเป็นเป้าหมายถูกกลั่นแกล้งของเพื่อนที่โรงเรียน จูเลีย ครูในชั้นเรียนของลูคัส ได้สังเกตเห็นถึงความผิดปกติของเขา ที่ก็ทำได้แค่เฝ้าสังเกตการณ์เท่านั้น กระทั่งในเวลาต่อมา เริ่มมีรายงานเหตุประหลาดเกิดขึ้นภายในเมืองเล็กๆ แห่งนี้ หลังพบซากศพมนุษย์ในสภาพเหวอะหวะไม่มีชิ้นดี และมีรายงานคนสูญหายเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จูเลียจึงเริ่มเชื่อมโยงปะติดปะต่อและสงสัยว่าเหตุการณ์ประหลาดๆ ทั้งหมดนี้ น่าจะเกี่ยวข้องกับลูคัส…ลูกศิษย์ของเธอ หนังเรื่องนี้ดัดแปลงมาจากงานเขียนเรื่องสั้นของ “นิค แอนโทสกา” ที่ชื่อว่า “The Quiet Boy” อันที่จริงหนังเรื่องนี้ถ่ายทำเสร็จสิ้นไปแล้วตั้งแต่เมื่อปี 2018 แต่เพิ่งจะได้ฤกษ์มาเข้าฉายในอีก 3-4 ปีให้หลัง เพราะเป็นหนังเรื่องท้ายๆ ของค่ายฟ็อกซ์ที่มีการเปลี่ยนมือผู้บริหารจัดการนั่นเองอ่านต่อ

รีวิว Hansan : Rising Dragon / ยุทธการฮันซัน ประจัญบานก้องเกียรตินาวี

Hansan : Rising Dragon เป็นภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์บางช่วงของ ‘เหตุการณ์สงครามเจ็ดปี’ หรือ ‘ศึกอิมจิน’ (ชื่อที่เรียกการรุกรานเกาหลีของญี่ปุ่นระหว่างปี 1592-1598) ในชุดไตรภาคของยุทธนาวีทื่ลือเลื่องในการปกป้องประเทศให้พ้นภัยรุกรานจากญี่ปุ่น ซึ่งนำทัพโดย พลเรือเอกอีซุนชิน ภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่สองต่อจาก The Admiral : Roaring Currents (2014) และจะมีเรื่องที่สามปิดท้ายตามมา คือ Noryang: The Sea of Death ซึ่งถ่ายทำเสร็จแล้วแต่ยังอยู่ในขั้นตอนโพสโปรดักชั่น แต่โดยลำดับเวลาของเหตุการณ์จริงแล้ว เรื่องราวของ Hansan : Rising Dragon เกิดขึ้นเป็นลำดับแรก คือปี 1952 ตามมาด้วย The Admiral : Roaring Currents ที่ฉายไปก่อนหน้านั้น ซึ่งคือยุทธนาวีมยองนยังที่เกิดขึ้นในปี 1597 และ Noryang: The Seaอ่านต่อ

The Northman (2022) ⚔️

นี่คือ “The Northman” ที่เขาเลือกจับสเกลหนังฟอร์มที่ใหญ่ขึ้นเยอะกว่าเดิม กับเนื้อหาที่ข้นคลั่กแทบจะสำลัก เสียดายจริง ๆ ที่หนังทำได้แค่ฉายเพียงแบบจำกัดโรงในเมืองไทย The Northman เป็นเรื่องราวของ เจ้าชายแอมเล็ธ ที่โชคชะตาชีวิตแปรผันอย่างกะทันหัน หลังจากที่ เฟียล์เนอร์ ผู้มีศักดิ์เป็นท่านอาแท้ ๆ ของเขาได้ทำการสังหารและลอบปลงพระชมน์พระบิดาต่อหน้าต่อหน้าเขา พร้อมกับแย่งบัลลังก์ขึ้นเรืองอำนาจแทน ทำให้เขาต้องจรลีหนีไปจากแผ่นดินและตั้งปฎิณาณตนว่าจะกลับมาแก้แค้นให้พ่อและช่วยแม่ให้จงได้ หลายปีผ่านมา แอมเล็ธ อยู่ในกลุ่มนักสู้คนเถื่อนเยี่ยงสัตว์ร้าย แต่เมื่อเขาได้พบเจอกับหญิงชาวบ้านที่ชื่อ วัลฮาลลา ที่จุดประกายให้เขาเลือกเดินตามชะตาที่ได้ลิขิตเอาไว้อีกครั้ง ด้วยการเข้ากลุ่มไปเป็นทาสขายแรงงาน และนำพาเขากลับสู่แผ่นดินไวกิ้งอีกครั้ง พร้อมกับเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจที่เขาหมายมั่นจะเด็ดหัว และชำระล้างแค้นแทนเสด็จพ่อที่เฝ้ารอคอยมาแสนนาน และนี่คือผลงานล่าสุดของผู้กำกับหนุ่มที่ได้ชื่อว่าทำหนังออกมาได้สุดโต่ง “โรเบิร์ต เอ็กเกอรส์” ทั้งการเล่าเรื่องและองค์ประกอบศิลป์ที่ไปได้สุดขั้ว เอาเป็นว่าถ้าคุณเคยดูงานชิ้นก่อน ๆ ของเขามาบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็น The Lighthouse หรือ The Witch ถือได้ว่าคุณมีภูมิเพียงพอที่จะเข้าไปเสพงานหนังชิ้นนี้ของเขาอยู่พอประมาณ เพราะถือว่าหนังเรื่องนี้น่าจะมีเนื้อหาที่เข้าใจง่ายและเข้าถึงคนดูได้มากขึ้นเยอะกว่าเดิมทีเดียว แน่นอนว่าลูกเล่นที่เป็นลายเส้นงานของ โรเบิร์ต เอ็กเกอร์ส ก็คือใช้เทคนิคงานภาพเล่นกับแสงและเงา ที่ในหนังแอคชั่นดราม่าเดือด ๆ สมัยไวกิ้งนี้ยิ่งมีองค์ประกอบที่เข้ามือของเขาเป็นอย่างดีอ่านต่อ

Against the Ice (2022)

ภาพยนตร์ มหันตภัยเยือกแข็ง Against The Ice (2022) จาก Netflix สร้างจากเรื่องจริงของของ 2 นักสำรวจเดนมาร์กที่ออกเดินทางเพื่อสำรวจดินแดนใหม่ในกรีนแลนด์ ในปี 1909 ช่วงเวลาเดียวกับเรือไททานิค นำแสดงโดย นิโคไล คอสเตอร์-วัลดาอู และ โจโคล จะสนุก ลุ้นระทึกมากแค่ไหนอ่านรีวิวได้ที่ด้านล่างเลยครัช เรื่องย่อ เมื่อทีมสำรวจเดนมาร์กของกัปตันไอจ์นาร์ มิคเคลเซน ได้พบบันทึกของทีมสำรวจเดนมาร์กที่หายสาญสูญไปก่อนหน้าจากศพของนักสำรวจ กัปตันไอจ์นาร์ จึงวางแผนที่จะออกสำรวจต่อและตามหาหินแคร์นที่ทีมสูญหายสร้างไว้ เพื่อนำเอกสารที่พวกสูญหายค้นพบกลับมา ทว่าในทีมของเขาไม่มีใครอาสาไปเป็นเพื่อนเขาเลย เพราะทุกคนรู้ว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะไม่รอดชีวิตกลับมา มีเพียงอีวาร์ อีวาร์เซน ช่างยนต์ที่ขึ้นเรือกลางทางเท่านั้นที่อาสาว่าจะไปสำรวจกับเขา หลังจากนัดแนะกับคนที่เหลือว่าจะกลับมาในเดือนสิงหา กัปตันและอีวาร์ก็ได้ออกเดินทางโดยใช้สุนัขลากเลื่อนในวันที่ 1 มีนาคม ปี 1910 ซึ่งระหว่างทางก็มีอุปสรรคทั้งความหนาวเย็น เส้นทางการเดินทางที่ยากลำบาก และเสบียงที่หมดลงทุกวัน แต่ในที่สุดพวกเขาก็ไปถึงหินแคร์นของทีมที่สูญหายและพบบันทึกบอกเล่าว่า เพียรี่แลนด์ ไม่ใช่เกาะ แต่เป็นดินแดนส่วนหนึ่งของกรีนแลนด์ ที่อเมริกันไม่มีสิทธิ์เข้ายึดครอง เป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ แต่เมื่อพวกเขาเดินทางกลับมาถึงเรือที่นัดแนะกับทีมไว้ก่อนหน้าในเดือนกรกฎาคม กลับพบว่าเรือถูกแยกส่วนมาสร้างเป็นกระท่อมและคนที่เหลือได้ทิ้งพวกเขาไปแล้วอ่านต่อ

รีวิว Rainbow / สายรุ้ง

เมื่อเห็นตัวอย่างภาพยนตร์เรื่อง Rainbow ของ Netflix ก็ทำให้ผู้เขียนเกิดความสนใจที่จะเข้าไปดู เนื่องจากสีสันและองค์ประกอบสุดแปลกพิศดารมันทำให้น่าค้นหายิ่งนัก ภาพยนตร์ Netflix ที่เพิ่งออกใหม่นี้เป็นเรื่องราวสมัยใหม่เกี่ยวกับการเดินทางแบบฉบับ “คัมมิงออฟเอจ (Coming of age)” ของวัยรุ่นสาวคนหนึ่งที่ได้รับแรงบันดาลใจจากนวนิยายคลาสสิกเรื่อง ‘The Wonderful Wizard of Oz’ หรือ ‘พ่อมดมหัศจรรย์แห่งเมืองออซ’ เป็นนวนิยายอเมริกันสำหรับเด็กที่ตีพิมพ์ขึ้นในปี 1900 ประพันธ์โดย L. Frank Baum ที่ซึ่งต่อมาก็เปลี่ยนชื่อเป็น ‘พ่อมดแห่งออซ (The Wizard of Oz)’ และก็ใช้เป็นชื่อภาพยนตร์ดัดแปลงในปี 1939 อีกด้วย พล็อตเรื่องของ Rainbow จะติดตามตัวละครสาววัยรุ่น Dora ที่มีความพยายามในการตามหาแม่ที่ทิ้งไปตั้งแต่เด็กของเธอ ทำให้สาววัยรุ่นรักอิสระต้องเดินทางไปพร้อมกับกลุ่มเพื่อนสุดแปลกที่เธอเจอบนเส้นทางสุดหฤหรรษ์ ขณะเดียวกันก็ต้องพยายามหลีกให้พ้นเงื้อมมือของผู้หญิงไฮโซสุดใจร้าย ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ภาษาสเปน กำกับและร่วมเขียนบทโดย Paco León ที่ถือเป็นการรื้อสร้างตำนานหนังสือสำหรับเด็กให้อยู่ในโลกร่วมสมัย ด้วยเรื่องราวที่เดินเป็นเส้นตรงสุดแสนธรรมดา แต่องค์ประกอบทางเทคนิคและเอฟเฟกต์สุดล้ำที่ออกไปในทางเพี้ยนๆอ่านต่อ

Fear Street Part One: ถนนอาถรรพ์ ภาค 1: 1994 เรื่องย่อ Fear Street Fear Street ในพาร์ทแรกนั้น เล่าถึงเหตุการณ์ ในปี ค.ศ. 1994 เมืองเชดี้ไลด์ เมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา ที่มีเหตุก่ออาชญากรรมสูง เกิดเหตุโศกนาฏกรรมบ่อยเกือบทุกวัน ซึ่งตรงข้ามกับเมืองข้างๆ อย่าง ซันนี่เวล เมืองที่เต็มไปด้วยความมั่งคั่งและความสงบสุข ดีน่า หญิงสาวจากโรงเรียน ไฮสคูล ได้พบกับ แซม หญิงสาวจาก ไฮสคูล เมืองซันนี่เวลและยังเป็นอดีตแฟนสาวของ ดีน่า ขณะที่แฟนใหม่ของ แซม ได้ตามไปป่วนพวกนักเรียนจากเมืองเชดี้ไลด์ ก็ทำให้เกิดอุบัติเหตุรถยนตร์พลัดตกถนน ซึ่งในรถคันนั้นก็มีแซมนั่งไปด้วย หลังจากเหตุการณ์อุบัติเหตุนั้น แซมเริ่มมีความผิดปกติเกิดขึ้นเริ่มเห็นภาพแม่มดบางอย่าง ในขณะเดียวกัน คืนนั้นก็เริ่มมีคนที่สวมหน้ากากผี มาเฝ้าอยู่หน้าประตูบ้านของดีน่า และเริ่มไล่ฆ่าคน แต่ฆาตกรที่ไล่ฆ่านั้นไม่ได้มีเพียงแค่คนที่สวมหน้ากาผีเพียงเท่านั้น ยังมีฆาตกรหญิงสาวที่ถือมีดโกนหนวด ตามไล่ฆ่าพร้อมกับร้องเพลงบทกลอนไปด้วย และฆาตกรที่ถือขวานวิ่งตามไล่ฆ่า ซึ่งฆาตกรเหล่านี้ จอช ที่เป็นน้องชายของดีน่า ก็ได้สันนิษฐานว่า ฆาตกรที่ไล่ฆ่าพวกเขาอาจจะเป็นลูกสมุนของแม่มดอย่าง ซาร่าห์ เฟียร์ ที่ต้องการตัวและเลือดของแซม ดีน่า เคท จอช และ ไซม่อนจึงรีบพาแซมหนีฆาตกรที่ตามไล่ฆ่า รีวิว Fearอ่านต่อ

The Hypnosis (2021) สั่งจิตสยอง เรื่องย่อ The Hypnosis เป็นการเอ็กซ์คลูซีพฉายเฉพาะที่ทรูไอดีเท่านั้น กับหนังเขย่าขวัญสะท้านจิตจากเกาหลีใต้ อย่าง The Hypnosis สั่งจิตหลอน ที่มีมาพร้อมกับปมปริศนาซ่อนเงื่อน บนพื้นฐานการวังวนแห่งการสะกดจิตและดำดิ่งไปสู่ห้วงลึกของความลับที่ดำหม่น หนังแนวจิตวิทยาสยองขวัญที่ต้องมีกึ๋นเท่านั้นถึงจะทำออกมาแล้วรอด แต่ในเรื่องนี้ถือว่าบิวท์อารมณ์และโทนหนังได้หลอนจัดจ้าน เพียงแต่ยังมีหลายอย่างที่ยังไม่ค่อยน่าจดจำ The Hypnosis สั่งจิตหลอน เป็นเรื่องราวของ โดฮยอน นักศึกษามหาวิทยาลัยผู้เคยสูญเสียความทรงจำในวัยเด็ก หลังจากประสบอุบัติเหตุ และ ฮยอนจุง ไอดอลสาวที่ถูกบูลลี่มาตลอด ด้วยความที่มีอะไรคล้าย ๆ กัน ทั้งสองเลยชวนกันไปเข้ารับการสะกดจิต ที่ควบคุมโดย ศาสตราจารย์ชเว ผู้เชียวชาญเรื่องโรค PTSD แต่หลังจากการสะกดจิต กลับมีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้น เมื่อโดฮยอนเห็นภาพหลอนปริศนา และมันกลายเป็นต้นตอเรื่องราวเลวร้าย เขาจึงต้องค้นหาความจริงของภาพหลอนในครั้งนี้ โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เขากำลังเผชิญมันคือเรื่องราวแห่งความตาย และความทรงจำที่เขาเห็นแท้จริงแล้ว มันคือความทรงจำของใครกันแน่ รีวิว The Hypnosis ต้องยอมรับว่า The Hypnosis สั่งจิตหลอน เป็นหนังที่มีความพยายามสร้างบรรยากาศและโทนหนังให้ออกมาชวนหลอนสะพรึงได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะยังสามารถหลอนได้มากกว่านี้อีก แต่เมื่อมีประเด็นเกี่ยวกับจิตวิทยาเข้ามาเป็นโครงเรื่องหลักของเรื่องแล้ว แน่นอนว่าผู้ชมจะต้องใช้สติในการรับชมอย่างสูง เพราะต้องมาแยกแยะว่า ตรงไหนเป็นเรื่องจริง ตรงไหนเป็นจินตนาการ หนังเรื่องนี้จุดอ่อนโดยหลักก็น่าจะเป็นวิธีการเล่าเรื่องที่แทบจะไม่มีเสน่ห์เลย ในขณะที่บทหนังอาจจะไม่ได้เลวร้ายอะไรมากนัก แต่ก็ยังไม่ใช่บทหนังที่ดีอะไร เพราะหนังไม่สามารถสร้างความสดใหม่และดึงดูดความสนใจได้เท่าที่ควร การปูเรื่องของหนังที่ผ่านไปอ่านต่อ