ONWARD คู่ซ่าล่ามนต์มหัศจรรย์

Onward เป็นดินแดนในโลกแห่งจินตนาการที่เป็นที่อาศัยของชาวเอลฟ์ โทรลล์ และเทวดา รวมไปถึงสัตว์ในเทพนิยายต่าง ๆ ซึ่งในอดีตกาลเป็นโลกในยุคที่มีการใช้เวทมนตร์ แต่เมื่อกาลเวลาผ่านอ่านต่อ

รีวิวภาพยนต์ Dog Gone (หมาหลง)

รีวิว Dog Gone (หมาหลง) เรื่องราวอันแสนอบอุ่นของหนุ่มไร้ฝันกับหมาเพื่อนซี้ #สร้างใหม่ได้มาก รีวิว Dog Gone (หมาหลง) เรื่องราวอันแสนอบอุ่นของหนุ่มไร้ฝันกับหมาเพื่อนซี้ บทความรีวิวนี้ ถูกเขียนขึ้นมาจากความรู้สึกส่วนตัวของผม หากผิดพลาดประการใด หรือไม่ถูกใจใครต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ แต่ก่อนจะมาเริ่มการรีวิวเรามาดูเรื่องย่อกันก่อนดีกว่า เรื่องย่อ Dog Gone (หมาหลง) ภาพยนตร์เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากเรื่องจริง ซึ่งพาผู้ชมไปติดตามเรื่องราวของ Fielding Marshall (รับบทโดย Johnny Berchtold) เด็กหนุ่มมหาลัยที่ชีวิตไร้เป้าหมาย เขาได้ตัดสินใจไปรับสุนัขมาเลี้ยงและตั้งชื่อให้มันว่า Gonker เขาเลี้ยงและผูกพันธ์กับมันนานหลายปีจนกระทั่งเรียนจบมหาวิทยาลัย Fielding ที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองจะทำอะไรต่อจึงตัดสินใจกลับไปอาศัยอยู่ที่บ้านกับพ่อและแม่ พร้อมกับพาเจ้า Gonker กลับไปอาศัยอยู่ที่บ้านด้วย โดยตอนแรกพ่อและแม่ของเขาดูจะไม่เห็นด้วยกับการนำสุนัขตัวนี้มาเลี้ยง แต่หลังจากผ่านไปไม่นานพ่อและแม่ก็ตกหลุมรักเจ้าสุนัขแสนรู้ตัวนี้เข้าจนได้ จนกระทั่งวันหนึ่งในระหว่างที่ Fielding พาเจ้า Gonker ไปเดินเล่นกับเพื่อนสนิท จู่เจ้า Gonker ก็วิ่งหายไปในป่าอย่างปริศนา ด้วยเหตุนี้เขาและพ่อแม่จึงต้องป่าวประกาศและออกตามหาเจ้าสุนัขตัวนี้กลับมา ซึ่งท้ายที่สุดแล้วพวกเขาจะตามตัวมันกลับมาได้หรือไม่และเรื่องราวทั้งหมดจะลงเอยอย่างไร ทุกคนคงต้องไปรับชมด้วยตาตัวเอง Dog Gone (หมาหลง) สามารถรับชมได้พร้อมพากย์ไทยทาง Netflix ผ่านกล่องทรูไอดี สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ต้องบอกก่อนเลยว่าไม่ได้รู้จักมาก่อนหรือเคยเห็นมาก่อนเลย แต่เห็นหลายคนพูดถึงและติดอันดับบน Netflixอ่านต่อ

"Chang Can Dunk"

ดูเหมือนว่าในทุก ๆ ปีจะมีหนังที่สร้างออกมาเป็นธรรมเนียมของค่ายหนังวัยใส วอลต์ ดิสนีย์ ที่จะสร้างหนังสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนออกมาสักเรื่องสองเรื่อง และเริ่มต้นปีนี้กับ “Chang Can Dunk” ที่นับว่าเป็นหนังสไตล์ coming-of-age กลิ่นอายความเป็นเอเชียนได้ถูกผสมผสานไว้ แม้ว่าอะไรหลาย ๆ อย่างในหนังเรื่องนี้แทบลงล็อก..แบบสูตรสำเร็จก็ตาม Chang Can Dunk ว่าด้วยเรื่องราวของ แชง เด็กนักเรียนอเมริกันเชื้อสายเอเชียที่เพิ่งจะขึ้นชั้น ม.ปลาย ที่หวังจะเปลี่ยนตัวเองครั้งสำคัญ ด้วยการท้าพนันกับเพื่อนดาวชมรมบาสเก็ตบอลของโรงเรียน ในการทำท่าสแลมดังก์ให้ได้ แต่เพราะความสูงตามมาตรฐานคนเอเชีย แค่ 170 เซนติเมตรหน่อย ๆ ทำให้เขาต้องมุ่งมั่นอย่างหนัก เพื่อที่จะคว้าชัยในการท้าทายครั้งนี้ให้ได้ เพราะมีเดิมพันเป็นการยอมรับจากสังคมโรงเรียน แต่เขาก็ได้เรียนรู้ว่า…เดิมพันแห่งชีวิตวัยรุ่นของเขา มันยังมีอะไรที่สำคัญมากกว่าแค่เดิมพันพวกนั้น แน่นอนว่ากลิ่นอายเอเชียลอยโชยมาเยอะขนาดนี้ นี่คือหนังที่เป็นผลงานการกำกับและเขียนบทของ “จิงยี่เฉา” ที่ถือว่าเป็นงานสร้างหนังใหญ่เรื่องแรกในฮอลลิวูดของเขา หลังจากที่สั่งสมประสบการณ์จากการทำหนังสั่นและสารคดีมาบ้างแล้ว และงานสร้าง Chang Can Dunk ก็จัดได้ว่าดีใช้ได้ตามมาตรฐานแบบหนังดิสนีย์ ที่มักจะมีแบบร่างสำเร็จรูปวางเอาไว้ในเดินตามรอย นั่นจึงทำให้หนังเรื่องนี้ก็ไม่ได้แตกต่างไปจากหนังวัยรุ่นดิสนีย์ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา หนังอาจจะมีพัฒนาการขึ้นบ้างจากหนังเมื่อช่วงยุคปี 2000s ที่ผ่านมา แต่ก็ยังคงวนเวียนอยู่ในเซฟโซนของหนังดิสนีย์ทั่วไปอ่านต่อ

รีวิวหนัง "We Have a Ghost บ้านนี้มีผีป่วน"

“We Have a Ghost บ้านนี้มีผีป่วน” หนังที่มีกลิ่นอายความปั่นป่วนชวนวุ่นของผีประจำบ้าน แม้ว่าในฉบับนี้จะไม่ได้ออกมาน่ารักน่าหยิก แต่พล็อตในทำนองคนกับผีร่วมมือกัน ยังเป็นสูตรสำเร็จที่ยังคงขายได้ตลอดกาล และดูเหมือนว่าเรื่องนี้..น่าจะออกมาเวิร์กเหมือนกัน We Have a Ghost บ้านนี้มีผีป่วน ว่าด้วยเรื่องราวของครอบครัวเพรสลีย์ที่มองหาการเริ่มต้นชีวิตใหม่ในเมืองชิคาโก พวกเขาย้ายเข้าไปอยู่บ้านเก่าที่เต็มไปด้วยฝุ่นเขรอะ แต่ในไม่ช้าทุกคนก็ตระหนักได้ว่ามีบางสิ่งบางอย่างซุกซ่อนอยู่ในบ้านหลังนี้ นั่นก็คือ เออร์เนสต์ ผีในห้องใต้หลังคา ที่พยายามทำให้สมาชิกในบ้านหวาดกลัว แต่เพราะจิตวิญญาณที่เข้ากันได้อย่างน่าประหลาด ทำให้ เควิน กับ เออร์เนสต์ ผูกพันกันอย่างรวดเร็ว และทราบว่าผีที่สิงอยู่ในบ้านหลังนี้ต้องการให้ช่วยเหลือบางอย่าง ในขณะที่ แฟรงค์ เสาหลักของบ้านที่สุภาพอ่อนน้อม ชีวิตของเขาเปลี่ยนทันทีที่มีผีประจำบ้านเข้ามาพัวพัน หลังจากที่คลิปคนกับผีถูกแชร์เป็นไวรัลไปทั่วโซเชียลมีเดีย ทำให้คนทั่วโลกต่างจับจ้องไปยังที่บ้านของตระกูลเพรสลีย์ และยังตกเป็นเป้าของ ดร.เลสลี่ มอนโร นักวิทย์ฯ ที่พยายามพิสูจน์เรื่องดวงวิญญาณ รวมทั้งอีกหลาย ๆ คนที่มีส่วนเชื่อมโยงเกี่ยวกับอดีตของผีเออร์เนสต์ ทำให้บ้านที่ควรจะอบอุ่นหลังนี้..เต็มไปด้วยอลหม่าน อันที่จริงคอนเซ็ปต์ใน We Have a Ghost ค่อนข้างน่าสนใจ แม้ว่าโครงสร้างต่างอ่านต่อ

รีวิว Close รักแรก วันนั้น

“Close รักแรก วันนั้น” หนังดราม่า coming-of-age ภาษาดัตช์และฝรั่งเศส ที่เคยสร้างเสียงฮือฮามาได้ตั้งแต่เปิดตัวฉายที่เทศกาลหนังเมืองคานส์ 2022 และคว้ารางวัล Grand Prix มาครองได้อย่างสมเกียรติ หนังที่เต็มไปด้วยความคมคาย ทั้งเนื้อหาและงานสร้างที่ค่อย ๆ ทำงานไปกับอารมณ์ความรู้สึกของผู้ชมได้อย่างแยบยลในทุก ๆ นาที Close รักแรก วันนั้น เป็นเรื่องราวความเป็นเพื่อนอันลึกซึ้งระหว่างเด็กชายวัย 13 ปี ทั้งสองคน เลโอ และ เรมี ที่พวกเขาต่างสนิทสนมเป็นเพื่อนสนิทบ้านใกล้เรือนเคียงกันมาตั้งแต่เล็ก ๆ แต่บัดนี้ความเปลี่ยนแปลงได้เข้ามาขัดขวางมิตรภาพของพวกเขาด้วยเหตุผลบางอย่าง และความไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เลโอจึงลังเลที่จะกลับไปหาโซฟี ผู้เป็นแม่ของเรมี แบบที่คุ้นเคยได้อีกครั้ง หนังเป็นผลงานล่าสุดของผู้กำกับหนุ่มไฟแรง “ลูคัส ดอนต์” ที่มักมีเอกลักษณ์ในการหยิบจับสร้างแนว coming-of-age โดยเฉพาะผลงานชิ้นก่อนที่เป็นหนังใหญ่เรื่องแรกของเขา อย่าง Girl ก็้้ยอดเยี่ยมระดับล่ารางวัลเช่นเดียวกัน มาครั้งนี้เขายังคงรับหน้าที่ดูแลงานสร้างและร่วมเขียนบทอีกเหมือนเคย ร่วมกับมือเขียนบทคู่บุญ “แองเจโล เทสเกนส์” อาจจะต้องบอกว่า Close รักแรกอ่านต่อ

The Fabelmans

“The Fabelmans” หนังชีวิตของพ่อมดฮอลลิวูดในช่วงวัยเยาว์อันเต็มไปด้วยรสชาติและสีสันมากมาย ทั้งความฝัน ความรัก ความหวัง และความทะเยอทะยาน ชีวิตจริงอาจจะไม่เหมือนในหนัง แต่บัดนี้เขาได้เอาชีวิตมาเป็นหนังที่ตัวเองสามารถออกมาได้สำเร็จ นี่คือเรื่องที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากชีวิตวัยเด็กของพ่อมดฮอลลิวูด สตีเวน สปีลเบิร์ก กับฉากหลังในรัฐแอริโซนา ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ชีวิตของเด็กชายที่ชื่อ แซมมี่ ฟาเบิลแมน ที่ได้ค้นพบความน่าหลงใหลของโลกแห่งภาพยนตร์ หลังจากที่เขากับครอบครัวได้ไปชมหนังคลาสสิก The Greatest Show On Earth อีกทั้งเขายังได้พบกับความลับของครอบครัวที่กำลังแตกสลาย เขาจึงใช้เวลาอันสำคัญของวัยเด็กไปกับการสร้างภาพยนตร์ของตัวเองขึ้นที่บ้าน ด้วยแรงสนับสนุนและผลักดันอย่างแรงกล้าจากแม่ของเขา คงจะต้องบอก..แบบไม่กลัวว่าใครจะหาว่าโอเวอร์เลยว่า นี่คือช่วงเวลา 2 ชั่วโมงครึ่งที่เต็มไปด้วยมนต์ขลังและอบอวลไปด้วยบรรยากาศฟุ้งฝันที่มาจากสัตย์จริง เป็นหนังเรื่องยาวที่เราแทบจะละสายตาไปจากหน้าจอไม่ได้เลย ไม่มีแม้แต่อาการปวดเข้าห้องน้ำระหว่างที่นั่งชมหนังเรื่องนี้ มนต์เสน่ห์ของหนังเรื่องนี้มัดหัวใจคนดูเอาไว้ได้อยู่หมัด เพราะชีวิตและเรื่องราววัยเด็กของพ่อมดฮอลลิวูดผู้นี้ช่างน่าดื่มด่ำและตราตรึงใจยิ่งแท้ แม้ว่าในทีแรกก็อาจจะมีคำถามตะหงิด ๆ ติดอยู่ในใจบ้างว่า หนังชีวประวัติวัยเด็กของสตีเวน สปีลเบิร์ก แต่ตัวเองก็ยังมาสร้างเองอีกเนี่ยนะ..มันจะเป็นหนังโฆษณาชวนเชื่อไปหรือเปล่า? แต่เมื่อได้มาสัมผัสดู The Fabelmans ด้วยตาตัวเองแล้วนั้น ความคิดเห็นได้มลายหายไปในทันที เพราะสปีลเบิร์กก็คือคนที่เหมาะที่สุดที่จะมาร้อยเรียงเล่าเรื่องชีวิตครอบครัวของเขาเอง บนหนังที่สร้างมาจากตัวละครที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับประสบความสำเร็จได้อย่างทุกวันนี้ The Fabelmansอ่านต่อ

Artemis Fowl อาร์ทิมิส ฟาวล์ Artemis Fowl (ผจญภัยสายลับใต้พิภพ) ภาพยนตร์แนววิทยาศาสตร์แฟนตาซีผจญภัย ดัดแปลงจาก อาร์ทิมิส ฟาวล์ นิยายชุดในชื่อเดียวกันในปี 2001 โดยนักเขียนชาวไอริช ออย โคลเฟอร์ ที่ฉายไปแล้วยกเว้นประเทศไทยตั้งแต่ปีก่อน และโดนคำวิจารณ์ในแง่ลบอย่างยับเยินโดยเฉพาะกับคนที่อ่านหนังสือมาแล้วถึงการปรับเปลี่ยนเนื้อเรื่องบางส่วน และเป็นภาพยนตร์ที่ถูกโยกย้ายจากโรงภาพยนตร์มาลงในดิสนีย์พลัสอีกด้วย เรื่องราวของอาร์ทิมิส ฟาวล์นั้นบอกเล่าถึงมหาสงครามระหว่างมนุษย์ แฟร์รี่ และพิกซี่ผ่านตัวละครของอาร์ทิมิส ฟาวล์ที่ 2 เด็กหนุ่มผู้ฉลาดเกินวัยที่ครอบครัวนั้นเป็นจ้าวแห่งอาชญากรรมที่ชั่วร้าย และดูเหมือนว่าการหายตัวไปของพ่อเขาบีบบังคับให้อาร์ทิมิส ฟาวล์โอบรับมรดก ของครอบครัวด้วยการลักพาตัวกัปตันฮอลลี่ ชอท แฟร์รี่สาวอายุเกือบร้อยปีที่บังเอิญมาอยู่ในพื้นที่ของคฤหาสน์ของเขา ก่อนจะพบความลับครั้งยิ่งใหญ่ที่สามารถทำลายโลกทั้งใบได้ ทำให้เขาต้องกลายเป็นจอมวายร้ายเพื่อต่อกรกับเหล่าศัตรูที่หวังเข้ามาทำลายชีวิตเขาและคนรอบตัว โดยหนังสือชุดนี้ได้รับคำวิจารณ์ในแง่บวกว่าเป็น ดายฮาร์ด ผสม แฮร์รี่พอตเตอร์ จนมีค่ายหนังมากมายสนใจที่จะดัดแปลงนิยายชุดนี้ให้เป็นภาพยนตร์แต่ก็ต้องพบกับปัญหามากมายจนในที่สุดดิสนีย์ก็รับไม้ต่อปลุกชีพภาพยนตร์โดยได้ผู้กำกับมือฉมังอย่าง เคนเนธ บรานาห์ ที่ฝากผลงานมาแล้วในทุกด้าน ทั้งหนังซูเปอร์ฮีโร่อย่าง ธอร์: เทพเจ้าสายฟ้า, หนังแอ็คชั่นอย่าง แจ็ค ไรอัน: สายลับไร้เงา หนังเจ้าหญิงดิสนีย์ทำเงินสูงอย่าง ซินเดอเรลล่าอ่านต่อ

The Kid Who Would Be King – หนุ่มน้อยสู่จอมราชันย์ ชีวิตลูสเซอร์ของ อเล็กซ์ (หลุยส์ แอชบอร์น เซอร์คิส) หนุ่มน้อยตุ้ยนุ้ยกำลังจะเปลี่ยนไป หลังดึงดาบเอ็กซ์คาลิเบอร์ออกจากศิลาในไซต์ก่อสร้าง ทำให้มอร์กานา (รีเบคกา เฟอร์กูสัน) แม่มดร้ายกลับคืนสู่โลกหวังแย่งชิงดาบและสังหารกษัตริย์องค์ใหม่ งานนี้ อเล็กซ์จึงต้องร่วมพลังทั้ง เมอร์ลิน (แองกัส อิมรี) พ่อมดวิเศษที่แฝงตัวมาในคราบเด็กวัยรุ่น, เบดเดอส์ (ดีน เชามู) เพื่อนสนิทขี้กลัวของอเล็กซ์, แลนซ์ (ทอม เทย์เลอร์) และ เคย์ (เรียอานา ดอริส) หัวโจกที่เคยแกล้งอเล็กซ์ทุกวัน เพื่อหยุดยั้งหายนะทำลายโลกจากแม่มดผู้ชั่วร้าย บอกตามตรงว่านี่คือหนังอันมีองค์ประกอบให้เรายี้ได้ทุกอย่างตั้งแต่ชื่อเรื่องที่ ทื่อมะลื่อได้อี๊ก! อะไรเข้าฝันให้เอาประโยคเฉิ่มเชยอย่าง The Kid Who Would Be King เด็กที่จะขึ้นเป็นกษัตริย์ เนี่ยนะ! แต่พอได้เห็นชื่อผู้กำกับอย่างอ่านต่อ

A Wrinkle in Time – ย่นเวลาทะลุมิติ หนัง A Wrinkle in Time หรือชื่อไทยว่า ย่นเวลาทะลุมิติ หลังจากการหายตัวไปของนักวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นพ่อของ Meg เธอจึงให้ผู้นำทางศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามช่วยเหลือ โดย Meg, น้องของเธอ และเพื่อนของเธอ ต้องเดินทางผ่านห้วงเวลาและอวกาศเพื่อตามหาพ่อของเธอที่หายไปดิสนีย์คือค่ายหนังที่มีแนวทางในการสร้างภาพยนตร์ของตัวเองชัดเจนเป็นอย่างมาก ซึ่งแนวทางที่ว่าคือ การสร้างภาพยนตร์ที่เน้นตลาด เด็กและครอบครัวเป็นหลัก โดยที่มีผลงานที่ประสบความสำเร็จต่างๆ มากมาย A Wrinkle In Time ถือเป็นผลงานดัดแปลงจากนิยายขายดี เป็นที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก ซึ่งที่ว่าน่าจับตามองเป็นอย่างมาก ส่วนใหญ่ก็จะเป็นประมาณว่า จะเป็นหนังเจ๊งประจำปีนี้หรือเปล่า เพราะหลังจากที่ตัวอย่างแรกของภาพยนตร์ได้ถูกปล่อยออกมา ถือว่าไม่น่าติดตามหรือน่าตีตั๋วเข้าไปชมเลยก็ว่าได้จนกระทั่งผมได้พิสูจน์ด้วยตาของตัวเอง บอกได้คำเดียวเลยว่า เป็นไปตามคาดจริงๆ ตัวหนังเต็มไปด้วยความเด็กที่เรียกได้ว่า กะขายเด็กเต็มๆ เลยทีเดียว แต่มันดันมีการเอาทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์มาใส่ปะปนกับตัวหนังเข้าไปด้วย ซึ่งอีกครึ่งนึงของเรื่องจะเป็นโทนแฟนตาซี ทำให้ 2 ส่วนนี้ดูขัดแย้งกันโดยตลอดระหว่างดู รวมไปถึงแคสติ้งนักแสดงที่เรียกได้ว่า ไม่ใช่ดาราที่สามารถดึงดูดให้คนเข้ามาชมหรือเพลิดเพลินไปกับตัวเรื่องเลยก็ว่าได้อ่านต่อ

รีวิว | The Son |

รีวิว | The Son | The Son “The Son” ที่ได้ชื่อว่าเป็นหนังภาคต้นจากเรื่องที่แล้ว ที่ยังคงเน้นกับการใส่เนื้อความเกี่ยวกับสถาบันครอบครัวได้อย่างลึกซึ้งและเจ็บปวด ซึ่งต้องบอกตรง ๆ เลยว่าหนังเรื่องทำปฏิกิริยากับผู้ชมอย่างด่ำดิ่ง ชนิดที่แทบจะลงไปนอนกองที่พื้น he Son เล่าเรื่องราวของ ปีเตอร์ กำลังยุ่งอยู่กับชีวิตหน้าที่การงานของเขา รวมทั้งการดูแลภรรยาคนปัจจุบัน เบธ กับลูก ๆ ของพวกเขา กระทั่งการปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งของ เคต อดีตภรรยาที่มาพร้อมกับ นิโคลัส ลูกชายที่เติบใหญ่เป็นวัยรุ่น ทำให้ชีวิตของปีเตอร์ต้องเผชิญหน้ากับช่วงหัวเลี้ยวหัวต่ออีกครั้ง ในการรับมือกับอดีตที่เขาเคยเดินจากมา และบัดนี้ได้ไล่ติดตามถึงตัวเขาอีกครั้ง หนังเรื่องนี้ดัดแปลงมาจากฉบับละครเวที (Le Fils) ที่ ฟลอเรียน เซลเลอร์ เป็นผู้ประพันธ์และสร้างเอาไว้ เมื่อปี 2018 โดยเขาหยิบจับเอาบทละครมาขัดเกลาปั้นออกมาเป็นบทหนังที่เต็มไปด้วยความคมคายเกี่ยวกับความสัมพันธ์และปัญหาในครอบครัวได้อย่างบรรจงสร้าง บาดเจ็บไปด้วยการแสดงของนักแสดงหลัก ๆ เพียงไม่กี่คน แต่เต็มไปด้วยความทรงพลัง เป็นหนังที่สอดแทรกประเด็นได้อย่างหนักอึ้งและสะท้อนปัญหาปัจจุบันของความเป็นครอบครัวได้เป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าเสียงวิจารณ์จากเหล่านักวิจารณ์ทั่วโลกจะไม่ได้ประทับใจในหนังเรื่องนี้กันสักเท่าไหร่ เพราะความที่เป็นหนังสไตล์เมโลดราม่าที่ไม่ได้เหนือการคาดเดาอะไรสักเท่าไหร่อ่านต่อ