รีวิวซีรี่ย์ ก๊วนหนุ่มซ่าล่าซูเปอร์ฮีโร่ (The Boys)

(The Boys

ซีรีส์นี่เลยโดนเรตไปถึง 18+ ทั้งความรุนแรง ภาษาหยาบคาย ภาพเปลือย รวมถึงเนื้อหาที่เกินเด็กไปหลายขุม แต่ก็ด้วยความจริงจังในการประเคนความรุนแรงนี้ด้วยล่ะ ยิ่งทำให้เราลุ้นกับตัวละครไปใหญ่ว่ามันจะรอดพลังระดับเหนือจินตนาการได้อย่างไร และทุกครั้งที่ฮีโรในเรื่องปรากฏตัวเราก็เสียวสันหลังทุกครั้งว่าจะมีตัวละครไหนตายแบบเราไม่ทันตั้งตัวหรือเปล่า ซึ่งมันทำงานได้ดีตั้งแต่ ตอนที่ 1 ที่เราเห็นการตายของตัวละครครั้งแรก ไปยันตอนที่ 8 อันเป็นตอนจบของซีซันแรกเลยทีเดียว

หนังได้ดาราที่น่าสนใจหลายคนมาแจม ทั้งตัวหลักและที่มาเสริมได้อย่างน่าประหลาดใจ ตัวหลัก ๆ ที่เราคุ้นหน้าก็มี คาร์ล เออร์แบน ที่มารับบท บิลลี บุตช์เชอร์ หัวหน้าทีม เดอะบอยส์ ผู้ฝังแค้นต่อซูเปอร์ฮีโรผู้ภาพลักษณ์ดั่งนักบุญ ทั้งยังเป็นซูเปอร์ฮีโรเบอร์ 1 ของโลก นาม โฮมแลนเดอร์ ที่จงใจผสมภาพระหว่างพลังของ ซูเปอร์แมน จากค่ายดีซี กับวิชวลแบบ กัปตันอเมริกา ของค่ายมาร์เวลไว้ในตัวเดียวกัน ความเป็นตัวละครที่มีแต่ความแค้นของบิลลีทำให้เขาเป็นภาพลักษณ์ของ ไฟแค้น ที่พร้อมเผาผลาญทุกอย่างไม่เว้นแม้แต่เพื่อนร่วมทีมให้วอดวายไปพร้อมกับอริ ยิ่งทำให้ซีรีส์นี่ไม่ได้มีเพียงตัวร้ายที่เราต้องหวาดหวั่น หากแต่การกระทำที่ไฟแค้นบังตาของฝั่งตัวเอกเองก็เป็นปัจจัยที่พร้อมจะพลิกสถานการณ์ให้เกิดอะไรขึ้นก็ได้ และการคาดเดาอะไรไม่ได้ก็คือสูตรปรุงรสสำคัญที่ซีรีส์ดัง ๆ ยุคปัจจุบันต่างมีด้วยนั่นเอง

แม้บิลลีจะเป็นตัวสำคัญในการผลักเรื่องไปข้างหน้า ทว่าผู้ชมจะถูกพาไปยังซอกซอยต่าง ๆ ของโลกในซีรีส์ด้วยสายตาของ ฮิวอี้ แคมป์เบล เด็กหนุ่มร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าผู้สูญเสียคนสำคัญไป ซึ่งรับบทโดย แจ๊ก เควด  ฮิวอี้คือตัวอย่างของคำว่าผีซ้ำด้ำพลอยได้ดีที่สุด เขาธรรมดาและอ่อนแอที่สุดในทีม ไม่ใช่อดีตทหาร ไม่ได้มีร่างกายล่ำบึ้ก ไม่ได้ฉลาดเป็นกรด เป็นแค่คนที่ถูกบิลลีจูงจมูกและหลอกใช้ประโยชน์จากความแค้นต่อฮีโรที่ไม่มีหนทางระบายออกอย่างเปิดเผยในสังคม จนเมื่อภารกิจล้างบางฮีโรนี้ได้นำพาเขามารู้จักกับ แอนนี (รับบทโดย อีริน มอริอาร์ตี้) หญิงสาวผู้มีพลังยิงแสงสว่างออกจากร่าง เธอถูกสอนฝังหัวแต่เด็กจากแม่บังเกิดเกล้าให้โตมาเป็นฮีโรในนาม สตาร์ไลต์ ซึ่งเมื่อเธอได้เข้ามาสัมผัสกลุ่มฮีโรที่เธอใฝ่ฝันอย่าง เดอะเซเว่น จริง ๆ แล้ว มันก็เหมือนเด็กที่ได้รู้ว่าซานตาคลอสไม่มีจริง เพราะทุกอย่างคือธุรกิจที่มีนักการตลาดคอยเขียนบทเท่ ๆ ให้ฮีโรพูดตามทำตามอยู่เสมอ แต่เธอก็อยากเชื่อว่านี่คือโอกาสให้เธอได้ช่วยเพื่อนมนุษย์อย่างที่ฮีโรควรเป็น ความสัมพันธ์ที่ค่อย ๆ ลึกซึ้งขึ้นเรื่อย ๆ ระหว่างแอนนี่กับฮิวอี้ ก็ทำให้ฮิวอี้ที่ต้องหลอกใช้แอนนี่เพื่อเข้าถึงกลุ่มฮีโรต้องอยู่ในสถานการณ์ลำบากใจไม่น้อย และนี่ก็เป็นอีกปัจจัยที่จะทำให้อะไร ๆ ยุ่งเหยิงเข้าไปอีก


พูดถึงฝั่งตัวเอกไปมากแล้ว ต้องพูดถึงตัวร้ายบ้าง จริง ๆ หนังแนวนี้จะตรึงเราติดได้ก็เพราะด้วยความเก่งและน่ากลัวของตัวร้ายเป็นสำคัญ ยิ่งไม่เห็นวี่แววจะชนะเรายิ่งอยากลุ้นอยากเอาใจช่วยพระเอก และซีรีส์นี้ก็มีตัวร้ายที่ดีอยู่ในมือมากพอด้วย  กลุ่ม เดอะเซเวน ประกอบด้วยฮีโรที่ได้รับการคัดสรรจากผู้มีพลังพิเศษทั่วโลกมาเหลือเพียง 7 คน นำโดย โฮมแลนด์เดอร์ ที่เหมือนซูเปอร์แมนแบบ พระเจ้าจอมปลอม อย่างที่บอกไปแล้ว มี ควีนเมฟ ที่ถอดมาจากวันเดอร์วูแมน ผู้มีสำนึกดีแต่อยู่เห็นโลกสีเทามานานจนไฟในใจมอดดับ มี เดอะดีป ที่คืออะควาแมน ในภาคที่หื่นกามและชะตาชีวิตตลกร้าย มี เอ-เทรน ที่คือเดอะแฟรชผสมฟอลคอน เป็นฮีโรที่มีมิติความเว้าแหว่งแบบมนุษย์สูงมากทั้งความผิดของเขายังเป็นตัวทำให้เกิดเรื่องราวทั้งหมดขึ้น มี ทรานลูเซนต์ มนุษย์ล่องหนจอมโรคจิต และสุดท้าย แบล็กนัวร์ ฮีโรในชุดดำสุดปริศนา

ฮีโรเหล่านี้ถูกบริหารงานด้วยบุคลากรหลายร้อยคนของบริษัทชื่อ วอท ซึ่งทำให้ฮีโรกลายเป็นธุรกิจมูลค่าหลายหมื่นล้านเหรียญทีเดียว แม้เรื่องนี้จะไม่บอกโต้ง ๆ ว่าเหล่าฮีโรได้เคยทำสิ่งเลวร้ายใดไว้ แต่เรารู้ว่าหนักหนาผ่านความโกรธแค้นของบิลลี แต่มันก็ถูกกดเป็นความลับจากคนดูไปแทบตลอดจนค่อย ๆ ผลิบานขึ้นทีละน้อยในแต่ละตอน ข้อดีคือเราค่อย ๆ เข้าใจตัวละครต่าง ๆ มากขึ้น และไม่มุ่งตัดสินแบบดำขาวกับตัวละครใด ๆ ในช่วงต้นเรื่องเรายังกังขาด้วยซ้ำว่าฮีโรภาพดีเหล่านี้หรือที่เป็นตัวร้ายของเรื่อง และเอาจริง ซีรีส์ก็บอกเราว่าไม่มีฮีโรตัวไหนที่เลวบริสุทธิ์ มันต่างมีที่มามีเหตุผลในจุดที่ด่างดำของตนเอง หนักบ้างเบาบ้าง บางตัวละครก็น่าสงสารเสียด้วยซ้ำ หลายตัวมีแนวโน้มจะย้ายข้างได้ หลายตัวยิ่งพยายามเป็นคนดียิ่งต้องถลำลึกในการปิดความชั่วดั่งน้ำผึ้งหยดเดียว บางตัวคือหน้ากระดาษสีดำที่ทุกคนบนโลกเห็นเป็นผืนกำแพงใหญ่สีขาวสะอาด มันจึงยิ่งท้าทายฝั่งต่อต้านเข้าไปซ้อนหลายชั้น นอกจากพลังระดับเทพเจ้าที่ไม่รู้จะเอาชนะอย่างไรแล้ว ด้านคนในสังคมยังเข้าข้างอย่างเต็มกำลังอีก แล้วมันจะเหลืออะไรไปชนะอีกล่ะ (ซึ่งนั่นล่ะถึงต้องตามดูจนติดหนึบ)

คลิปตัวอย่าง ก๊วนหนุ่มซ่าล่าซูเปอร์ฮีโร่ (The Boys)