- เรื่อง The Curse of Bridge Hollow
- ประเภท Adventure/Comedy/Family
- ผู้กำกับ Jeff Wadlow
- ความยาว 1h 29m
- ปีที่ฉาย 2022
- IMDB 5.6/10
- ดูได้ที่ ▶ NETFLIX
วิวภาพยนต์ The Curse of Bridge Hollow
“The Curse of Bridge Hollow คำสาปแห่งบริดจ์ฮอลโลว์” แค่ใบปิดและหน้าหนังก็สัมผัสได้ถึงอลเวงวายป่วน สไตล์หนังช่วงเทศกาลของฝรั่ง แต่ไม่รู้ว่าจะหมู่หรือจ่ากันแน่เนี่ยเรื่องนี้
The Curse of Bridge Hollow คำสาปแห่งบริดจ์ฮอลโลว์ เป็นเรื่องราวของเด็กสาววัยรุ่นที่บังเอิญปลดปล่อยดวงวิญญาณดึกดำบรรพ์ออกมาสู่โลกปัจจุบันที่กำลังเข้าสู่ช่วงเทศกาลวันฮาโลวีน และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นแห่งหายนะที่กำลังจะเกิดขึ้นกับเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ ที่ทำให้เธอต้องหาแนวร่วมมาช่วยเหลือ และเขาก็คือคนสุดท้ายที่เธอจะนึกถึง ซึ่งก็คือ..พ่อของเธอ
นี่คือผลงานของผู้กำกับ “เจฟฟ์ แวดโลว์” ที่เรามักจะคุ้นเคยงานชิ้นก่อน ๆ ของเขาที่ค่อนข้างดิบไม่เบา อย่าง Kick-Ass 2 หรือ Truth or Dare แต่มาคราวนี้ถือว่าเขาปรับโหมดตัวเองขั้นสูง เพราะเบนเข็มมาทำหนังสยองขวัญแฟนตาซีที่ค่อนข้างใส ๆ ไร้พิษภัย เป็นหนังฮาโลวีนที่เต็มไปด้วยสูตรสำเร็จตามมาตรฐานของหนังงแนวนี้ ที่เราเคยได้ดูมาก่อนตลอด 20-30 ปีที่ผ่านมา
บทหนังของ The Curse of Bridge Hollow ก็ไม่ได้มีชั้นเชิงอะไร เพราะทุกอย่างเป็นสูตรสำเร็จพื้น ๆ ที่หยิบนำมาเล่าใหม่ เหมือนเป็นการหยิบจากเรื่องนั้นเรื่องนี้มายำรวมเข้าเอาไว้ในเรื่องเดียวกัน โดยหยิบเอาปีศาจในตำนานต่าง ๆ ที่เคยคุ้นเคยมาปลุกเสกให้ผู้ชีวิตแบบลวก ๆ โดยใช้บรรทัดฐานของหนังครอบครัวเป็นหลัก ออกมาเป็นหนังที่ดูได้ฆ่าเวลาเพลิน ๆ แก่นสารไม่เยอะเท่าไหร่ ก็หลอนสนุกไปตามท้องเรื่องของมัน
จังหวะของหนังก็แทบไม่มีอะไรใหม่ ใส่มุกและโทนความเป็นหนังตลกคนผิวสีเข้ามาแบบพื้นฐาน โครงเรื่องและเสน่ห์ต่าง ๆ ก็ยังมาด้วยอารมณ์เดิม ไม่ว่าจะเป็นการผูกเรื่องเชย ๆ กับแนวคิดต่างของพ่อลูก หรือมนต์อัศจรรย์ผีคืนชีพ แน่นอนว่าเป็นอะไรที่เราเคยดูอะไรแบบนี้มาแล้วทั้งนั้น อาจมีมุมที่ทำให้รู้สึกหงุดหงิดรำคาญในตรรกะของตัวละครบ้าง แต่ก็ไม่ได้ซีเรียสแต่อย่างใด
เอาเป็นว่าโดยภาพรวมแล้วนั้น The Curse of Bridge Hollow ก็ถือว่าเป็นหนังสยองขวัญแฟนตาซีที่ดูได้เพลิน ๆ แต่ไม่ได้มีอะไรให้น่าจดจำอะไร อารมณ์เหมือนนั่งดูหนังแนวนี้ยุคใหม่ ๆ อย่าง The House with a Clock in Its Walls หรือ Goosebumps เอามาปรุงแต่งใหม่ที่ออกมาในรสชาติที่ไม่ได้ต่างมากนัก ถึงจะมีบทที่เชยแสนชาย แต่หนังก็ยังมีจังหวะที่ลงตัวไปได้กับการหนีและเผชิญหน้าสู้กับผี ที่แน่นอนว่า..เรารู้ตอนจบของหนังตั้งแต่เริ่ม