รีวิวภาพยนต์ | Wheel of Fortune and Fantasy | วงล้อแห่งโชคชะตาและฝันหวาน

คลิปตัวอย่าง | Wheel of Fortune and Fantasy | วงล้อแห่งโชคชะตาและฝันหวาน

  • เรื่อง       Wheel of Fortune and Fantasy
    ประเภท  Drama/Romance
    ผู้กำกับ   Ryûsuke Hamaguchi
    ความยาว 2h 1m
    ปีที่ฉาย    2021
    IMDB    7.5/10

รีวิวภาพยนต์ | Wheel of Fortune and Fantasy | วงล้อแห่งโชคชะตาและฝันหวาน

 “Wheel of Fortune and Fantasy” (วงล้อแห่งโชคชะตาและฝันหวาน) อีกหนึ่งผลงานโดดเด่นที่ผู้กำกับริวสุเกะ ในปี 2021 ที่ต้องยกนิ้วให้เช่นเดียวกัน

Wheel of Fortune and Fantasy

สำหรับผลงานอย่าง Wheel of Fortune and Fantasy ของ ริวสุเกะ ฮามะกุชิ อันที่จริงเป็นงานที่ออกสู่สายตาผู้ชมก่อนการมาของ Drive My Car เสียอีก เพราะหนังปฐมทัศน์ฉายครั้งแรกที่เทศกาลหนังเบอร์ลิน 2021 และตระเวนออกอีเวนท์ใหญ่ๆ ทั่วโลก ก่อนจะเลี้ยวกลับมาลงโรงฉายที่ญี่ปุ่นบ้านเกิดในช่วงก่อนจะส่งท้ายปีเก่าที่ผ่านมานี่เอง ด้วยการได้รับอานิสงส์ทรงพลังในตัวผู้กำกับด้วยนั้นคงจะต้องบอกว่า Wheel of Fortune and Fantasy เป็นหนังที่มีความเป็นเฉพาะและความเป็นส่วนตัวในฉบับที่ ริวสุเกะ ฮามะกุชิ อยากจะถ่ายทอดออกมาจริงๆ เพราะนี่คือสิ่งที่เขากำกับและเขียนบทหนังขึ้นมาเอง ถ่ายทอดผ่านเรื่องราวความสัมพันธ์แปลกๆ ผ่านหนังสั้นทั้ง 3 เรื่อง ที่ร้อยเรียงเข้าเอาไว้ด้วยกันเป็นหนังเรื่องเดียว และต้องถือว่าในแต่ละเรื่องนั้นเต็มไปด้วยเอกลักษณ์ มิติ และความคมคายของบทภาพยนตร์อย่างสูงทีเดียว

Wheel of Fortune and Fantasy

ประเดิมในตอนแรกที่มีชื่อว่า “Magic (or Something Less Assuring)” [เวทมนตร์ (หรือสิ่งที่มั่นใจได้น้อยกว่า)] ที่นับว่าเป็นการเปิดเรื่องด้วยเสน่ห์ความเป็นหนังของริวสุเกะโดยแท้ กับบทสนทนายาวๆ แบบลองเทคระหว่างโดยสารรถแท็กซี่ของ 2 ตัวละครหลัก ที่เล่าและเม้าท์ถึงความสัมพันธ์กับคนรักที่ค่อนข้างออกรสชาติอยู่ไม่น้อย แต่หนังก็หักมุมบิดไปมาได้อย่างสนุก กับบทหนังสั้นที่มาแค่ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ถ่ายทอดออกมาได้อย่างสนุกโดยเฉพาะการแสดงของ “โคโตเนะ ฟูรุกาวะ” ที่ต้องยกนิ้วให้ เพราะเธอสามารถให้การแสดงออกมาที่สร้างความรู้สึกทั้งชอบและทั้งเกลียดได้ในเวลาเดียวกัน แม้ว่าสาวน้อยคนนี้จะเพิ่งมีประสบการณ์ทางการแสดงได้ไม่กี่ แต่ทักษะการแสดงของเธอคนนี้ทำให้คนดูต้องจับจ้องบนจออยู่ตลอดเวลา ทั้งสายตาและอินเนอร์ต่างๆ ที่เลือกหยิบขึ้นมาอธิบายตัวละคร ถือว่าเธอสอบผ่านมากๆ

Wheel of Fortune and Fantasy

ตามมาด้วยเรื่องถัดมากับ “Door Wide Open” [ประตูที่เปิดอยู่] เป็นตอนที่เล่าถึงความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างเซ็กซี่และวาบหวิว แต่ใช้องค์ประกอบของการพรรณาและโวหารเข้ามาช่วยบิ้วท์อารมณ์ให้เสียวซ่านได้อย่างน่าผิดหวัง นี่จึงกลายเป็นอีกหนึ่งตอนที่บทภาพยนตร์ของริวสุเกะ ได้ทำหน้าที่คัดกรองและกลั่นเนื้อกับน้ำออกมาได้รสชาติที่เกือบจะครบเครื่องหนังสั้นตอนนี้สามารถถ่ายทอดมิติของตัวละครหลัก ทั้ง 3 ตัวออกมาได้อย่างคมคาย แบบไม่มีใครยอมใคร เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับบทที่ต้องใช้อินเนอร์และอารมณ์ใส่เข้าไปในการขับพลังออกมาด้วยแล้ว นักแสดงทั้งหมดถือว่าทำได้ค่อนข้างน่าประทับใจ กลายออกมาเป็นหนังสั้นอีโรติกที่ไม่มีฉากโป๊เปลือยใดๆ เลยด้วยซ้ำ กับสำนวนเชิงสังวาสที่เย้ายวนใจที่ยกระดับให้ตอนนี้กลายเป็นหนังสั้นที่มีกึ๋นเป็นอย่างยิ่ง

Wheel of Fortune and Fantasy

และปิดท้ายด้วยตอนสุดท้าย “Once Again” [อีกครั้ง] ที่น่าจะเป็นตอนที่รู้สึกชอบเป็นการส่วนตัวที่สุด เพราะเป็นตอนที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่กลับซับซ้อนและแฝงอารมณ์เอาไว้มากมาย ด้วยการทำหน้าที่ของ 2 ตัวละครหลักที่ถ่ายทอดออกมาได้น่าทึ่ง เรื่องราวของหญิงสาววัยกลางคนที่เดินสวนที่บันไดเลื่อนและต่างคุ้นหน้าคร่าตากันชอบกล ก่อนพวกเธอจะพบว่าเป็นเพื่อนกันเมื่อสมัยเรียนมัธยม และทำให้ความทรงจำในวันวานได้ย้อนกลับมาในชีวิตอีกครั้งเรื่องราวในตอนนี้คงจะบอกเล่าอะไรได้ไม่มาก เพราะเป็นตอนที่เสี่ยงกับการสปอยล์ค่อนข้างสูง แต่กระนั้นก็เป็นตอนที่ยังคงมีบทหนังที่คมคายและชูรสชาติได้เป็นดีอีกเช่นกัน โดยเฉพาะการสร้างมิติมให้กับคาแรกเตอร์นำที่ผู้หญิงทั้ง 2 คนนี้ “ฟูซาโกะ อูราเบะ” กับ “อาโอบะ คาวาอิ” จับมือกันประคับประคองหนังสั้นตอนนี้ออกมาได้เกือบจะสมบูรณ์แบบ เรียกว่าเป็นหนังสั้นที่เหนือความคาดหมาย และก็รู้สึกอบอุ่น-ประทับใจกับความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นอย่างบอกไม่ถูก

Wheel of Fortune and Fantasy

เอาเป็นว่าโดยสรุปแล้ว Wheel of Fortune and Fantasy จะบอกว่าเป็นหนังแมสที่เหมาะกับทุกคนทั่วไปหรือไม่ ก็คิดว่าคงจะยังไม่ใช่ แต่ก็ไม่ใช่หนังอินดี้จ๋าๆ ที่ต้องมานั่งวิเคราะห์กันให้งงแต่อย่างใด เพราะหนังสั้นทั้ง 3 ตอนในเรื่องนี้ มีแกนหลักเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ในมนุษย์สิ้น ที่อาจจะเน้นย้ำไปถึงมิตรภาพ โชคชะตา และเพศสัมพันธ์ แต่ไม่ได้นำเสนอภาพออกมาในเชิงอนาจารเลยสักนิด นี่จึงเป็นพรสวรรค์อันน่าทึ่งของนักสร้างหนังที่ชื่อว่าริวสุเกะโดยแท้